ถือว่ากลับมาทันเวลาพอดี สำหรับ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวาจอมปั่นจากทีม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หลังมีรายชื่อเป็นตัวจริงประเดิมสนามนัดแรกในศึกฟุตบอลโลก 2022 ก่อนพาทีมชาติอังกฤษคว้าชัยเหนือทีมชาติอิหร่านไปแบบขาดลอย 6-2 เมื่อวันที่จันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา
โดย ทริปเปียร์ โชว์ฟอร์มเก่งในนาทีที่ 32 จากจังหวะได้ลูกเตะมุม โดยดาวเตะวัย 32 ปี เปิดโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะได้โหม่งแบบเน้น ๆ แต่ลูกก็ชนคานกระเด้งออก ทำให้ทัพสิงโตคำรามพลาดขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย
ก่อนที่จะได้โอกาสจากลูกเตะมุมอีกครั้งในนาทีที่ 43 โดยเจ้าตัวเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ และก็เป็น แม็กไกว์ ได้โหม่งอีกครั้ง แต่เป็นการโหม่งชงกลับมาให้ บูกาโย่ ซาก้า ตั้งป้อมวอลเลย์ด้วยซ้าย พุ่งเข้าประตูตุงตาข่ายไปอย่างสวยงาม ซึ่งช็อตนี้ ทริปเปียร์ มีส่วนสำคัญที่ช่วยส่งให้อังกฤษขยับนำห่าง 2-0
ย้อนกลับไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นิวคาสเซิล ต้องเจอข่าวร้าย เมื่อ ข่าวกีฬา รายงานว่า ทริปเปียร์ กองหลังคนสำคัญในยุคของเอ็ดดี้ ฮาว ได้รับบาดเจ็บจนกระดูกเท้าแตก จากนัดที่นิวคาสเซิล เอาชนะ แอสตัน วิลลา 1-0 ซึ่งแบ็คขวาทีมชาติอังกฤษต้องเปลี่ยนตัวออกมาในช่วงต้นครึ่งหลัง และจากการบาดเจ็บครั้งนี้ก็อาจทำให้ทัพ “สาริกาดง” ต้องขาดดาวเตะหลักรายนี้ไปอย่างน้อย 6 สัปดาห์เลยทีเดียว
คีแรน ทริปเปียร์ กลายมาเป็นหัวใจสำคัญของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หลังทีมเศรษฐีใหม่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก ซื้อตัวจาก แอตเลติโก มาดริด มาร่วมทัพสาริกาดงเมื่อช่วงเดือน ม.ค. 2022 ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ โดยเจ้าตัวได้เซ็นสัญญากับนิวคาสเซิลสองปีครึ่ง พ่วงด้วยออปชั่นเสริมเพิ่มเติม ซึ่งทันทีที่ดาวเตะรายนี้ลงสนาม เจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มเด็ดด้วยลีลาการตั้งลูกเตะตามสไตล์ของเขา จนส่งให้ นิวคาสเซิล ที่กำลังหนีการตกชั้นอย่างหนัก กลับมามีเกมรับที่แน่นขึ้นและค่อย ๆ ไต่อันดับจากท้าย ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ขึ้นมาได้
ข่าว กีฬา วัน นี้ จะพามาทำความรู้จักกับ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวาจอมปั่นความหวังของ นิวคาสเซิล กันซักหน่อย
คีแรน ทริปเปียร์ มีชื่อเต็มว่า คีแรน จอห์น ทริปเปียร์ เกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 1990 ที่เมืองบิวรี่ ประเทศอังกฤษ โดยได้รับใบเบิกทางเส้นทางฟุตบอล จากสโมสรดังอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ให้เข้าร่วมอะคาเดมี่ เมื่อตอนอายุได้ 9 ขวบ ซึ่งเจ้าหนูทริปเปียร์รับใช้ทีมเยาวชนของเรือใบสีฟ้า จนกระทั่งได้รับสัญญาอาชีพเต็มตัวฉบับแรกในปี 2009 ซึ่งในตอนนั้นเจ้าตัวอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม โชคยังไม่เข้าข้างเขามากนัก เนื่องจากในฤดูกาลนั้น แมนฯ ซิตี้ มีดาวเตะตำแหน่งแบ็คขวาอยู่แล้วถึง 3 คน ไม่ว่าจะเป็น ไมก้า ริชาร์ดส ปาโบล ซาบาเลต้า และเนดุม โอนูโอฮา จึงทำให้โอกาสของ ทริปเปียร์ ที่จะแสดงศักยภาพให้เป็นดาวรุ่ง จึงยังไม่เฉิดฉายเท่าที่ควร ก่อนที่จะจบด้วยการถูกส่งไปให้ บาร์นสลี่ย์ ในลีกอีเอฟแอลแชมเปี้ยนชิพ ยืมตัวใช้งาน
ในช่วงแรก ทริปเปียร์ ประสบปัญหาจากอาการบาดเจ็บ จนเจ้าตัวต้องขอใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอยู่กับบาร์นสลี่ย์ ถึง 2 ฤดูกาลต่อเนื่อง (2009/10-2010/11) โดยลงเล่นไปทั้งหมด 44 นัด ยิงได้ 2 ประตู ก่อนที่ฟอร์มจะไปเตะตา ทีมเบิร์นลี่ย์ จนกระทั่งถูกดึงตัวไปด้วยสัญญาซื้อขาด ในฤดูกาล 2011/22 เพื่อแทนที่ ไทโรน เมียส์ ที่มีอาการบาดเจ็บต้องพักยาว ๆ ที่เบิร์นลี่ย์ ทริปเปียร์ได้รับโอกาสในการโชว์ฟอร์มอย่างเต็มที่ กระทั่งได้กลายเป็นตัวหลักของทีมทันที เจ้าตัวลงเล่นมากกว่า 40 นัดทุกปี ตลอด 3 ซีซั่น ก่อนจะทำผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการคว้ารองแชมป์เดอะแชมเปี้ยนชิพ พาทีมขยับชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาล 2013/14
ฤดูกาล 2014/15 ทริปเปียร์ในวัย 24 ปี ได้มีโอกาสขึ้นมาโลดแล่นบนลีกสูงสุดเป็นปีแรก รับใช้เบิร์นลี่ย์ไป 4 ฤดูกาล ลงสนาม 185 นัด ทำได้ 7 ประตู ก่อนจะเป็นท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส ที่ลงทุนควักเงิน 3.5 ล้านปอนด์ ดึงตัวมาร่วมทีม แต่ในขณะนั้น ทัพ “ไก่เดือยทอง” มี ไคล์ วอล์คเกอร์ เจ้าของที่ตำแหน่งแบ็คขวาที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุด ๆ อยู่แล้ว และกว่าที่ ทริปเปียร์ จะเข้ามาเสียบได้ก็เป็นตอนที่ วอล์คเกอร์ ถูกขายไปให้ แมนฯ ซิตี้ เพื่อช่วยสโมสรปลดหนี้ก้อนโตจากการลงทุนสร้างสนาม ด้วยค่าตัวมหาศาลกว่า 50 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017
แม้จะต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้างในช่วงแรก แต่ในฤดูกาล 2018/19 ทริปเปียร์ก็ได้ฉายแสงเต็มที่ ด้วยการพาสเปอร์ส เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ แม้จะไปพ่ายให้กับลิเวอร์พูลก็ตาม ทว่าฟอร์มการเล่นของเขาก็ถูกจับตามองมากขึ้น จนในที่สุดก็ได้ตั๋วไปตะลุยฟุตบอลโลก 2018 กับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งถือเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติครั้งแรกของเขาอีกด้วย
หลังจบซีซั่น 2019 ชีพจรลงเท้าอีกครั้ง หลังเจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปโลดแล่นในแดนกระทิงดุกับทีม แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัวกว่า 20 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญา 3 ปี ทีเด็ดจากลูกฟรีคิกและลูกตั้งเตะต่าง ๆ ของเขา ก็ส่งให้ทริปเปียร์กลายเป็นตัวหลักของทีม ก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกาได้สำเร็จในฤดูกาล 2020/21
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเส้นทางนักฟุตบอลของเขาที่กำลังไปได้ดี จะต้องสะดุดอีกครั้งกับปัญหาการต่อสัญญาฉบับใหม่ที่ทางฝั่งของทีมตราหมีไม่สามารถบรรลุข้อตกลงตามที่ทริปเปียร์ต้องการได้ จนท้ายที่สุด ก็เป็นนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่กำลังร่ำรวยลงทุนควักกระเป๋าซื้อตัวมาร่วมทีมในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์
ทริปเปียร์ กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่สร้างผลงานให้ทัพสาริกาดงอย่างต่อเนื่อง จนสามารถถีบตัวเองหนีโซนตกชั้นมาได้ ซึ่งนับเป็นการพลิกชะตาของทีมแบบสุด ๆ แต่อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า นิวคาสเซิล ต้องเสีย แบ็คขวาเท้าชั่งทองรายนี้ไปหลายนัด เนื่องจากเจ้าตัวจำเป็นต้องพักฟื้นอย่างน้อย 6 สัปดาห์ จากอาการบาดเจ็บที่ค่อนข้างรุนแรงของเขา
ทั้งนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่า หลังจบโปรแกรมรับใช้ชาติ คีแรน ทริปเปียร์ จะกลับมาช่วยนิวคาสเซิลให้รอดพ้นจากโซนท้ายตารางพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ โดยเฉพาะแฟน ๆ สาลิกาดง คงอยากจะเห็นเจ้าตัวกลับมาช่วยทีมให้เร็วที่สุดอย่างแน่นอน
เรียบเรียงข้อมูล : zumroad.com
