"เควิน เดอ บรอยน์" หัวหอกเติมเกมรุก อาวุธที่ร้ายแรงของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หนึ่งในตัวบุกที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก

"เควิน เดอ บรอยน์" หัวหอกเติมเกมรุก อาวุธที่ร้ายแรงของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หนึ่งในตัวบุกที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก

กีฬาวันนี้ หากเราจะพูดถึงนักเตะในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ที่มีฝีเท้าโดดเด่นที่สุดในช่วงเวลานี้ ชื่อของ เควิน เดอ บรอยน์ คงเป็นชื่อที่ติดอยู่อันดับต้นๆ ซึ่งแฟนบอลบางคนก็อาจจะยกให้เขาคือผู้เล่นตัวรุกอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ฝีเท้าของดาวเตะวัย 31 ปีของทีม ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ไร้ข้อกังขา 

แต่อย่างที่รู้กันว่า ณ เวลานี้ เดอ บรอยน์ ได้เดินทางมาสู่จุดที่พบกับความสำเร็จในอาชีพของเขาแล้ว แต่หากมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่เจ้าตัวผ่านมาจนมายืนในจุดนี้ได้ ก็เรียกได้ว่า เส้นทางของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลยแม้แต่น้อย 

เดอ บรอยน์ ต้องเผชิญกับบททดสอบมากมายกว่าจะมีวันนี้ได้ หัวโจกเติมเกมรุกอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ก้าวมาเป็น เควิน เดอ บรอยน์ อย่างวันนี้ได้อย่างไร ข่าว กีฬา วัน นี้ จะพาไปทำความรู้จักกับสุดยอดปีกทีมชาติเบลเยี่ยมคนนี้กัน

kevin-de-bruyne-young

จาก ประวัติ เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2534 ที่เมือง DRONGEN ประทศเบลเยี่ยม ด้วยบุคลิกเป็นเด็กเงียบๆ และขี้อาย จึงทำให้เจ้าตัวไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทนัก โดยเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวของเขาก็คือ ฟุตบอล และฟุตบอลก็เป็นสิ่งเดียวทีทำให้เด็กขี้อายคนนี้ สามารถเปลี่ยนบุคลิกได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ 

โลกของฟุตบอลทำให้เขากลายเป็นผู้นำและเต็มไปด้วยแพสชั่น และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลของ เดอ บรอยน์ กับทีมท้องถิ่น ตั้งแต่เจ้าตัวอายุเพียง 6 ปีเท่านั้น ก่อนที่ 2 ปีให้หลังจะได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในทีมเยาวชนของเกงค์ และด้วยฝีเท้าที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เดอ บรอยน์ ในวัย 14 ปี ก็ได้ย้ายไปอยู่กับสโมสรใหญ่ของเกงค์ได้ 

แต่แล้วนี่ก็เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเขา เมื่อสโมสรต้องการให้เด็กๆ ที่มาจากต่างเมืองไปอยู่ Host Family เพื่อที่จะให้เด็กๆ ทีมฟุตบอลเยาวชนได้รับความอบอุ่นและรู้สึกเหมือนอยู่กับครอบครัวที่แท้จริง แต่กลับกลายเป็นว่า ด้วยบุคลิกที่เป็นเด็กเก็บตัวและพูดน้อยของเดอ บรอยน์ ก็ทำให้ครอบคัวอุปถัมภ์มองว่ามันเป็นปัญหาและไม่ต้องการให้เขากลับไปอีก ซึ่งมันก็เป็นหนึ่งในเรื่องฝังใจของเขา 

แต่อย่างไรก็ตาม เดอ บรอยน์ ก็ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้มาทำลายความฝันของเขาที่มีต่อฟุตบอล ยังคงตั้งใจและทุ่มเทในการฝึกซ้อมอย่างหนัก ซึ่งด้วยฝีเท้าที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์บวกกับความพยายามของเขา เดอ บรอยน์ ก็ได้ไต่ขึ้นไปเป็นตัวจริงของชุดใหญ่ในโปรลีก ด้วยวัยเพียง 17 ปี และก็ได้ฉายฟอร์มเก่งจนถูกเรียกว่าเป็นดาวดวงใหม่ของวงการฟุตบอลเบลเยี่ยม จากการยิงไป 6 ประตู กับอีก 17 แอสซิสต์ สามารถพาเกงค์คว้าแชมป์โปรลีกได้สำเร็จในปี 2010

kevin-de-bruyne-belgium

โดย เดอ บรอยน์ ได้รับโอกาสในการลงเล่นให้กับทีมชาติเบลเยียมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปีเดียวกันนี้ และ เควิน เดอ บรอยน์ ทีมชาติ ตามรายงาน ข่าวกีฬา จนถึงปัจจุบันได้ลงเล่นไปแล้วมากกว่า 20 นัด ซึ่งเจ้าตัวเป็นขุนพลหลักที่ช่วยพาเบลเยียมเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 และยังคงเป็นผู้เล่นเพลย์เมกเกอร์คนสำคัญของทีมชาติเบลเยียมมาจนถึงปัจจุบัน

หลังจากที่ค้าแข้งกับเกงค์ได้ 3 ปี เดอ บรอยน์ ก็ตัดสินใจสู่เวทีพรีเมียร์ลีก ด้วยการเซนสัญญากับเชลซีในเดือนมกราคมปี 2012 แต่ เควิน เดอ บรอยน์ เชลซี ดูจะเป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยราบรื่นมากนัก เนื่องจากทีม ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ ในตอนนั้นอัดแน่นไปด้วยนักเตะฝีเท้าดี แน่นอนว่าโอกาสในการลงเล่นจึงน้อยลงไปด้วย

kevin-de-bruyne-chelsea

ก่อนที่เชลซีจะตัดสินใจให้ เวอร์เดอร์ เบรแมน ยืมตัวไปในฤดูกาล 2012/13 และที่นั่น เดอ บรอยน์ ก็โชว์ฟอร์มสุดเทพให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาแฟนบอลบุนเดสลีกา ด้วยการเหนี่ยวไกไปคนเดียว 10 ประตู จากการลงสนามเป็นตัวจริงทั้งหมด 34 นัด แต่ถึงผลงานดีเท่าไร 

สุดท้ายก็ยังไม่เข้าตาสิงห์บลู ที่เจ้าตัวมีโอกาสลงเล่นเพียง 9 นัด เท่านั้น และในที่สุดต้นสังกัดก็ตัดสินใจปล่อยตัว เดอ บรอยน์ ออกในช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคม 2014 โดยเขาได้ย้ายกลับไปอวดฝีเท้าต่อที่บุนเดสลีการ่วมกับวูลฟ์เบิร์ก 

de-bruyne-wolfsburg

หลังจากการกลับมารอบนี้และทำผลงานไป 16 ประตู จาก 51 เกม เควิน เดอ บรอยน์ เบลเยียม ก็ช่วยให้วูลฟ์เบิร์กคว้าเยอรมัน คัพ ได้สำเร็จ และแล้วชื่อเสียงก็มาพร้อมกับรางวัลแห่งความสำเร็จเมื่อเจ้าตัวได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นดีเด่นประจำปีของบุนเดสลีกา พ่วงด้วยนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมันอีกด้วย 

และทันทีที่หวนคืนสนามเอติฮัดสเตเดียม เควิน เดอ บรอยน์ แมนซิ ก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงจนกลายเป็นขวัญใจแฟนบอลทั่วโลก เนื่องจากยอดฟอร์มที่เขาสร้างสรรค์และคว้าชัยมาสู่ทีม แต่อย่างไรก็ตามก็ทำเอาแฟนเรือใบสีฟ้าใจแป้วไปพักหนึ่ง

kevin-de-bruyne-injury-man-city

หลังจากที่ เควิน เดอ บรอยน์ เจ็บ ที่บริเวณกล้ามเนื้อด้านหลังโคนขา จากเกมนัดที่แมนฯ ซิตี้ เอาชนะแอสตัน วิลลา 2-0 และต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ซึ่งจากการบาดเจ็บในครั้งนั้นก็ทำให้เจ้าตัวต้องพักการเล่นไปยาวถึง 4-6 สัปดาห์เลยทีเดียว

kevin-de-bruyne-nike-shoe

ในปี 2020/21 ที่ต้องบอกว่าเป็นยุคของ เควิน เดอ บรอยน์ NIKE ก็ได้เปิดตัวรองเท้ารุ่น Phantom Vision เจเนอเรชั่น 2 ซึ่ง ข่าว กีฬา ก็รายงานว่า เควิน มีส่วนร่วมในการออกแบบในครั้งนี้ด้วย หลังจากที่เจ้าตัวใส่ Phantom Vision รุ่นแรกลงสนามและโชว์แอสซิสต์ไปได้อย่างถล่มทลาย 

จึงทำให้ เควิน เดอ บรอยน์ รองเท้า รุ่นนี้กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง เพราะนอกจากดีไซน์ที่สวยงามแล้ว รองเท้ารุ่น 2 นี้ ยังถูกปรับตามคำแนะนำจากการใช้งานจริงของเควินอีกด้วย

 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 

A post shared by Kevin De Bruyne (@kevindebruyne)


จากเด็กน้อยขี้อายที่ต้องผ่านบททดสอบมหาศาลสู่การเป็นนักเตะสุดยอดตัวรุก จนทำให้ตอนนี้
เควิน เดอ บรอยน์ ig (@kevindebruyne) มีผู้ติดตามมากถึง 16.8 ล้านคน แน่นอนว่า เดอ บรอยน์ รับบทบาทการเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้อย่างดีไม่มีที่ติ ในขณะที่หลังบ้านของเขา เจ้าตัวก็รับบทบาทการเป็นคุณพ่อลูกสามไปแล้ว 

ซึ่งก่อนหน้านี้ ข่าวเรื่อง แฟน เควิน เดอ บรอยน์ ก็มีเรื่องราวอื้อฉาวอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่สตาร์กองกลางทีมชาติเบลเยี่ยมจะตัดสินใจโบกมือลาแฟนเก่า และแต่งงานสร้างครอบครัวกับแม่ของลูกๆ อย่าง มิเชล ลาครัวซ์ เมื่อปี 2014

kevin-de-bruyne-wife-family

แน่นอนว่านี้คือยุคแห่งความสำเร็จของเขาอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย เอฟเอคัพ 1 สมัย และลีกคัพอีก 4 สมัย รวมถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ประจำปี 2020 ก็ทำให้ เดอ บรอยน์ ได้รับสัญญาณตอบกลับที่ดีจากแมนฯ ซิตี้เป็นการต่อสัญญาไปจนถึงปี 2025 เป็นที่เรียบร้อย

de-bruyne-man-city-atletico-madrid

แต่อย่างไรก็ตาม จากข่าวล่าสุดของ กีฬา วัน นี้ ที่แมนฯ ซิตี้ ต้องเจอกับ แอตเลติโก มาดริด ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เดอ บรอยน์ เจ้าของประตูชัยช่วยให้ทีมเรือใบสีฟ้าชนะไป 1-0 ก็ยอมรับว่า เจองานไม่ง่ายในการเจาะประตูเอาชนะในครั้งนี้ ซึ่งแฟนๆ ก็ต้องมาร่วมลุ้นไม่ให้เขาเจ็บตัวและฟิตพร้อมลงสนามกันต่อไป

เว็บไซต์ ZumRoad ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว