เปิดประวัติ "แฮร์รี่ แม็คไกวร์" ปราการหลังสุดแกร่งแห่งเกาะอังกฤษ

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ชื่อเต็มของเขาคือ เจค็อบ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (Jacob Harry Maguire) เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 1993 ที่เมืองเชฟฟิลด์ รัฐ ยอร์คเชียร์ ในประเทศอังกฤษ เขาเติบโตมาพร้อมกับพี่ชายสองคน ลอเลนซ์ แม็คไกวร์ และ โจ แมไกวร์

แต่แหล่งข่าวกีฬาบางที่ระบุว่ามีน้องสาวอีกคนชื่อ เดซี่ แม็คไกวร์  ปัจจุบัน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เฟิร์น ฮอว์กินส์ ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันมานานแล้ว ตั้งแต่ อายุ 18 ปี สมัยที่ แม็คไกวร์ ยังเป็นเยาวชนทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก่อนจะคบหากันมาเรื่อยๆ จนมีการหมั้นหมายกันในปี 2018 และเพิ่งแต่งงานไปในปี 2022 นี่เอง โดยเฟิร์น ฮอว์กินส์ เป็นสาวจากเมือง เชฟฟิลด์ เมืองเดียวกับ แมไกวร์ นั่นเอง

แฮร์รี แม็คไกวร์ ประวัติ เริ่มต้นอาชีพฟุตบอลอย่างจริงจังในช่วงที่อยู่ในทีมเยาวชน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในช่วงนั้นเอง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้เล่นกับผู้เล่นระดับท้อป อาทิเช่น ไคลน์ วอล์คเกอร์ ,จอห์น สโตน และ เจค ลิเวอร์มอร์

แม็กไกวร์ ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งกองหลังตัวกลาง ด้วยเพราะความสูงของเขา แฮร์รี แมไกวร์ กล่าวว่า

เหตุผลที่ผมเล่นกองหลังคือ เมื่อตอนเป็นเด็กผมเริ่มเล่นในตำแหน่งกองกลาง จนกระทั่งช่วงอายุ 16-18 ปี เป็นช่วงเวลาที่ผมสูงมาก เลยลงเอยด้วยการมาเล่นตำแหน่งกองหลังตัวกลาง เพราะผมจะตัวใหญ่ และอ้วนที่สุดในสนามเสมอ

แม็คไกวร์ ผ่านชุดเยาวชนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดมา จนเข้าสู่ชุดใหญ่และประสบความสำเร็จกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2011-2012 โดยเป็นการได้รับรางวัลของสโมสร ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี และผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี และยังสามารถอยู่ในทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ทำให้ ฮัลล์ซิตี้ จ่ายเงินซื้อไปร่วมทีมด้วยราคา 2.5ล้ายปอนด์ ในทันที โดยอยู่กับฮัลล์ซิตี้ 3 ฤดูกาล และยังเคยพาฮัลล์ซิตี้ เลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีกอีกด้วย

และในฤดูกาล 2016-2017 เป็นปีที่ แม็คไกวร์ ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก แม้ว่าสุดท้ายจะไม่สามารถช่วยฮัลล์ซิตี้ให้อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้ แต่ผลงานของเขาก็โดดเด่นพอที่จะทำให้  ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ คว้าตัวไปร่วมทีมในช่วงตลาดซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ ในสัญญาระยะยาว 5 ปี

ช่วงเวลากับเลสเตอร์ซิตี้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ย้ายเข้ามา ที่เลสเตอร์ ด้วยวัย 24 ปี และได้กลายเป็นกำลังหลักในแดนหลังโดยทันที โดยในฤดูกาล 2017-2018 ฤดูกาลแรกที่เข้ามา แม็คไกวร์ ลงช่วยทีม เลสเตอร์ ครบทุกนัดที่มีการแข่งขัน และสร้างผลงานพาทีมเลสเตอร์ จบอันดับที่ 9 ตามตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

และในช่วงนี้เองที่ แม็คไกวร์ เริ่มสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองด้วยการเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก มีทีมยักษ์ใหญ่หลายๆทีมสนใจจะดึงตัวไปร่วมทีมตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้น ในฤดูกาลถัดมา แมคไกวร์ ก็ยังเล่นอยู่กับทีม  เลสเตอร์ ต่อไป

• อาร์เซน่อล ไอ้ปืนโตแห่งลอนดอน
• “จอมห้าวหัวเสือ” สเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์ก
• "สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์" กองกลางคนสำคัญ ที่มีดีมากกว่าความขยัน

จนกระทั่งจบฤดูกาล 2018-2019 จุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้งของ แฮรรี่ แมคไกวร์ ก็เกิดขึ้นหลังจากความแข่งแกร่งที่ แมคไกวร์ แสดงให้เห็นในช่วงเวลาที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ทำให้สโมสรหลายแห่งสนใจจะดึงตัวไปร่วมทีม

จนสุดท้ายตามรายงานข่าว กีฬา ก็เป็น ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยอมลงทุนทุ่มสุดตัว ตัดสินใจจ่ายเงิน กว่า 80 ล้านปอนด์ ดึงตัวเข้าสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งดีลนี้เองทำให้ตัวเขา เป็นกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกทันที  ทำลายสถิติของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่ย้ายจาก เซาแฮมป์ตัน ไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์

และการย้ายเข้าสู่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ตัวเขาก็ได้เข้ามาเป็นกำลังหลักในแดนหลังของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยทันที และด้วยคาแรคเตอร์ ความเป็นผู้นำของเขา ตัวเขาก็ได้รับความไว้วางใจจาก ผู้จัดการทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ให้ได้รับบทกัปตันทีม ในปีแรกที่เข้ามาอยู่เลยทีเดียว

และเช่นกันในฤดูกาลแรก ของ แม็คไกวร์ กับทีมปีศาจแดง แมไกวร์ ก็ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ให้กับทีมครบทุกนัด พาทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ในช่วงแรกฟอร์มไม่สู้ดี สามารถจบอันดับ 3 ได้ตาม ตารางพรีเมียร์ลีก

แต่แล้วช่วงเวลาของกัปตันทีมปีศาจแดง คนนี้ก็เริ่มจะไม่สู้ดีนัก โดยในฤดูกาล 2021-2022  เนื่องจากฟอร์มการเล่นของทีมที่ไม่ดีเท่าไหร่ เป็นเหตุให้ กุนซือ ของทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ดึงตัวเขาเข้ามาต้องถูกปลดออกไป และได้ตัว ราล์ฟ รังนิค มาเป็นกุนซือแทน และด้วยฟอร์มส่วนตัวของเขาที่ดูจะช้าลงไป รวมไปถึงจังหวะการเข้าสกัดที่ดูมีปัญหา สกัดผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้ ราล์ฟ รังนิค ต้องตัดสินใจดร็อปกัปตันทีมรายนี้บ้างในบางเกมการแข่งขัน

แถมยังถูกสื่อ ข่าวกีฬา รุมตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการรับบทกัปตันทีมอีกด้วย จนมาเกิดการเปลี่ยนแปลงที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง เมื่อมีผู้จัดการทีมคนใหม่ก้าวเข้ามาแทนที่ ราล์ฟ รังนิค นั่นคือ เอริค เทน ฮาก ประกอบกับสถานการณ์ภายในของทีมที่มีข่าวออกมาเรื่อยๆ และ เทน ฮาก ที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งกุนซือนั้นก็ไม่รอช้า ตัดสินใจดึงลูกศิษย์คนเก่ง ลิซานโดร มาติเนซ ตำแหน่งกองหลัง ตามมาด้วย ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

และการเข้ามาของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ฟอร์มการเล่นร้อนแรงมากนี่เองที่อาจจะทำให้ แฮรรี่ แมไกวร์ ไม่มีพื้นที่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกก็เป็นได้ และฟุตบอลโลกครั้งนี้แหละที่จะเป็นเวทีใหญ่ให้แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เรียกฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองกลับมาเพื่อโอกาสการกลับมาสู่ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เรียบเรียงข้อมูลโดย : zumroad.com