ผู้ใช้ Apple Vision Pro บางส่วนเริ่มแสดงความไม่พอใจกับเจ้าแว่นตาอัจฉริยะราคาแพงนี้ โดยมีการโพสต์รีวิวและแจ้งการคืนสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียจำนวนมาก ช่วงเวลานี้ตรงกับช่วงที่ผู้ซื้อกลุ่มแรกสามารถขอคืนสินค้าภายใน 14 วันพอดี
เหตุผลหลักที่ผู้ใช้ตัดสินใจคืนสินค้าส่วนใหญ่มาจากความไม่สบายในการสวมใส่ หลายคนรายงานว่ารู้สึกปวดหัวและเวียนหัวจากการใช้ Vision Pro น้ำหนักของตัวเครื่องที่ค่อนข้างมากและการกระจุกตัวของน้ำหนักที่ด้านหน้าก็เป็นอีกปัญหาที่พบเจอ บรรณาธิการข่าวของ The Verge อย่าง Parker Ortolani ก็เล่าว่าเขาเกิดเส้นเลือดฝอยแตกที่ตาหลังจากใช้ Vision Pro นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้รายอื่นพบอาการตาแดงคล้ายๆ กัน (ทั้งนี้ อาการตาแห้งและตาแดงเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในผู้ใช้แว่นตา VR)
"แม้การใช้งานจะมหัศจรรย์อย่างที่คาดหวัง แต่แว่นตานี้ใส่นานๆ ไม่ได้เลยเพราะทั้งหนักและสายรัดไม่ค่อยสบาย ผมอยากใช้มันนะ แต่แค่คิดจะใส่มันก็รู้สึกกลัว" Ortolani กล่าว เขายังโพสต์เกี่ยวกับการคืนสินค้าลงบนโซเชียลมีเดียด้วย
ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด ร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน การผลิตสินค้าสวมใส่แบบ mass market จึงมักเจอปัญหาเรื่องความสบายที่ไม่สามารถตอบโจทย์ทุกคนได้ เช่นเดียวกับสมาร์ทวอทช์ที่มีขนาดและน้ำหนักที่อาจไม่เหมาะกับทุกข้อมือ หรือแหวนอัจฉริยะที่อาจไม่พอดีกับขนาดนิ้วมือ สำหรับแว่นตาและชุดหูฟังอัจฉริยะนั้น คนที่มีสันจมูกแบนอาจพบปัญหาแว่นตาเลื่อนหลุดหรือไม่สามารถกันแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว ซอฟต์แวร์ก็เป็นอีกประเด็นที่ถูกร้องเรียน ผู้ใช้หลายคนมองว่า Vision Pro ไม่คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย เนื่องจากเทคโนโลยีและฟังก์ชันการทำงานด้าน productivity ยังไม่เพียงพอ ผู้ใช้รายหนึ่งบน Threads บอกว่าการดูหน้าจอ Figma บน Vision Pro ทำให้เขาเวียนหัว แถมยังไม่เหมาะกับการทำงานของเขา วิศวกรอีกคนเขียนบน X ว่าประสบการณ์การเขียนโค้ด "ไม่น่าประทับใจ" และปัญหาโฟกัสทำให้ปวดหัว
Carter Gibson ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายชุมชนและการควบคุมดูแลที่ Google มองว่าปัญหาอยู่ที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น การจัดการหน้าต่างและไฟล์ที่ยุ่งยากมากเกินไป
ยากที่จะประเมินว่าเสียงสะท้อนจากผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ นี้จะส่งผลต่ออนาคตของ Vision Pro อย่างไร หลายคนที่บอกว่าจะคืนสินค้ายังบอกอีกว่าพวกเขารอคอยที่จะลองใช้ Vision Pro รุ่นที่สอง คนอื่นๆ เน้นย้ำว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยี แต่เป็นเพราะยังไม่มีแอปพลิเคชันเด็ดๆ หรือความสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ยังยากที่จะประเมินด้วยว่านี่เป็นปรากฏการณ์ที่แพร่หลายแค่ไหน ถึงแม้ผู้ใช้เหล่านี้จะออกมาพูดบนโซเชียลมีเดีย แต่เราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการคืนสินค้าจริง หรือความคาดหวังของ Apple ภายในเกี่ยวกับ Vision Pro
ที่มา: TheVerge
