Back 4 Blood เป็นเกมออนไลน์ Co-op แบบสี่ผู้เล่นที่คุณและทีมอีกสามคนจะได้สวมบทบาทเป็น Cleaners เพื่อต่อสู้กับซอมบี้ "Ridden" ที่หลายๆคนอาจจะคิดว่าผู้สร้างเกมในแฟรนไชส์นี้จะรู้วิธีในการสร้างเกมยิงแนวซอมบี้แบบ Co-op ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็มีบางปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นบางส่วนที่เหลือนั้นคิดว่า Back 4 Blood ก็ยังไม่ใช่เกมที่ดีได้ขนาดนั้น
หากมองแบบผิวเผินแล้ว Back 4 Blood ให้ความรู้สึกว่ามันเป็นเกมที่ดีเกมหนึ่ง แต่หลายๆคนรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรที่โดดเด่นเลย ไม่มีการกำหนดเรื่องราวของตัวละครหรือช่วงเวลาของเหตุการณ์ใดๆ องค์ประกอบการเล่นทั้งหมดให้ความรู้สึกเหมือนถูกนำแต่ละข้อดีของเกมอื่นๆมารวมกันอย่างพิถีพิถัน ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้ายไปเสียทีเดียว
ผู้พัฒนา Turtle Rock Studios ได้ดึงเอาส่วนที่ดีที่สุดหลายๆอย่างมาใช้ แต่การนำมารวมกันใน Back 4 Blood นั้นจบลงด้วยความรู้สึกแปลกๆ คล้ายกับการได้ฟังวงดนตรีที่คุณชื่นชอบมาหลายปี แล้วพวกเขาก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงใหม่ แต่มีสไตล์และกลิ่นอายทางดนตรีเหมือนเดิม
แต่ก็ยังมีไฮไลท์บางอย่างในการต่อสู้กับซอมบี้ของเกมออนไลน์ Back 4 Blood อย่างแรกเลยคืออาวุธที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีกว่าเดิม การยิงใน Back 4 Blood นั้นใช้การวิ่งและยิงน้อยกว่า การเก็บและเปลี่ยนอาวุธอาจจะทำให้คุณช้าลงเล็กน้อย รวมไปถึงการใช้ Stamina ที่มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นการมีทีมที่รู้ใจกันดีจึงมีความสำคัญ เพราะถึงแม้ว่าเหล่าซอมบี้อาจจะไม่ได้วิ่งดิ่งตรงมาที่คุณโดยทันที แต่ก็เร็วมากพอที่จะให้ผู้เล่นได้บริหารจัดการเวลาอย่างรัดกุมก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
สำหรับอาวุธปืนที่มีอยู่ใน Back 4 Blood นั้นเรียกได้ว่าแทบจะแบบออกมาจาก Left 4 Dead และ Left 4 Dead 2 เลยก็ว่าได้ โดยอาวุธนั้นจะสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มค่าสถานะบางอย่างได้เช่น ความคล่องตัว พลังโจมตี หรือ ความแม่นยำ
น่าเสียดายที่อุปกรณ์ที่ติดมากับอาวุธนั้นสามารถสลับได้แต่ไม่สามารถเอาออกได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีเพราะนั่นจะช่วยให้คุณไปต่อได้โดยไม่ต้องมากังวลกับเรื่องจุกจิกพวกนี้มากจนเกินไป อีกส่วนหนึ่งคือระบบ Safe Room ที่จะให้คุณได้ทำการปรับปรุงอุปกรณ์และของสวมใส่ให้กับทีมได้แทนที่จะจบเป็นด่านๆไปและต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ทั้งหมด
ระบบการ์ดของเกม Back 4 Blood ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถือว่ามีความน่าสนใจ และสำหรับผู้เล่นใหม่ก็อาจจะต้องใช้เวลาสักพักในการทำความเข้าใจกับมัน มีการ์ดมากมายให้คุณเลือกใช้เพื่อให้ผลที่สนับสนุนกัน สร้างความได้เปรียบให้กับได้ค่อนข้างมาก
การได้รับการ์ดใหม่เป็นสิ่งต้องดำเนินการผ่านระบบที่ค่อนข้างมีความซับซ้อน และเป็นสิ่งล่อใจที่อาจจะทำให้คุณใช้เงินในเกมไปกับไอเท็มเหล่านี้เกินความจำเป็น ในขณะที่คุณยังจะสามารถรับชุดการ์ดเป็นเซ็ตที่สามารถปลดล็อกได้ แต่ก็ต้องใช้ Supply Points ในการปลดล็อกการ์ดแต่ละใบเพื่อให้ครบชุด และนั่นทำให้ Back 4 Blood เป็นได้ทั้งเกมที่ต้องเสี่ยงโชคและเกมที่สามารถทุ่มเทเพื่อให้ได้มาในเวลาเดียวกัน
ในส่วนของกราฟิกใน Back 4 Blood นั้นถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี รวมไปถึงเสียงของเกมที่ทำออกมาได้น่าประทับใจและให้บรรยากาศในเกมที่ยอดเยี่ยม
การออกแบบด่านแต่ละด่านใน Back 4 Blood ถือว่าทำออกมาได้ไม่แย่มากนัก ในด่านของเกมนั้นมีหลายด่านๆที่ถูกออกแบบมาได้อย่างมีดีเทล แต่หลายๆคนกลับมองว่าไม่มีส่วนไหนเลยที่จะสร้างความประทับใจได้เป็นพิเศษ เพราะมันดูคล้ายคลึงกับเกมออนไลน์แนว Co-op อีกหลายๆเกมที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เคยได้เล่นกันมา
เป็นการยากที่จะหาคำวิจารณ์ที่แท้จริงและจับต้องได้ใน Back 4 Blood มากกว่าความประทับใจแบบทั่วๆไป บางทีอาจจะดีกว่านี้ถ้าตัวละครในเกมนั้นมีปฏิสัมพันธ์ที่น่าจดจำมากกว่านี้ แต่มีตัวละครเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ดูโดดเด่นจริงๆ และที่แย่กว่านั้นคือ Back 4 Blood ไม่ใช่เกมที่จะมอบประสบการณ์การเล่นแบบ Solo ให้คุณได้เลย
คุณสามารถเล่นคนเดียวได้ก็จริง แต่นั่นจะต้องเล่นในโหมดเกมออนไลน์เท่านั้น ซึ่งตัวบอทที่จะมาร่วมทีมนั้นเรียกได้ว่าแย่เอามากๆ และคุณจะไม่ได้รับ Supply Points เมื่อเล่นคนเดียวอีกด้วย สำหรับใครที่ไม่มีเพื่อนและต้องเล่นคนเดียวก็อาจจะต้องเจอกับคนแปลกหน้าที่บางครั้งก็อาจจะสร้างความหนักใจให้เราค่อนข้างมากเลยทีเดียว
สำหรับบทสรุป Back 4 Blood ถือว่าเป็นเกมคุณภาพที่ทำออกมาได้ดีอย่างแน่นอนซึ่งการันตีด้วยยอดผู้เล่นที่มีมากกว่า 10 ล้านคนไปแล้ว ตัวเกมมีเมคานิกส์ที่ยอดเยี่ยม ระบบการ์ดที่เล่นได้สนุกถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจสักหน่อย ส่วนข้อสังเกตต่างๆที่ถูกยกมานั้นก็เป็นความเห็นของผู้เล่นบางคนเท่านั้น แน่นอนว่า Shooter Game มุมมองบุคคลที่หนึ่งนี้จะยังคงพัฒนาและมีฐานผู้เล่นที่มากพอจะไปได้อีกไกลอย่างแน่นอนครับ
Back 4 Blood เปิดให้เล่นแล้วบน PC, Playstation 4, PlayStation 5, Xbox One และ Xbox Series X|S ครับ
