Nintendo Switch กับ Nintendo Switch OLED เหมือนหรือต่างกันอย่างไร เลือกรุ่นดี?

Nintendo Switch กับ Nintendo Switch OLED เหมือนหรือต่างกันอย่างไร เลือกรุ่นดี?

เมื่อช่วงปลายปี 2021 Nintendo ได้นำเอาเครื่องเกมคอนโซลกึ่งพกพา Switch เข้ามาใหม่โดยมีการแสดงผลบนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นจากรุ่นเดิม แล้ว Nintendo Switch OLED มีอะไรดีมากกว่า Switch ตัวมาตรฐานอยู่อีกไหม และในเมื่อตัวเดิมก็ยังวางขายอยู่ในราคาที่ถูกลง เราควรจะเลือกซื้อแบบไหนมาเล่นกันดี

มาว่ากันด้วยเรื่องของสิ่งที่เหมือนกันก่อน นั่นคือทั้งตัว Nintendo Switch ตัวดั้งเดิมกับ Nintendo Switch OLED นั้นสามารใช้งานได้ทั้งแบบถือพกพา ตั้งวางเล่นกับจอย และต่อออกทางจอทีวีได้เหมือนๆ กัน โดยสองแบบแรกจะแสดงผลที่ความละเอียด 720p และเฟรมเรทที่ 60 ซึ่งถ้านำไปต่อกับทีวีจะทำให้ได้ภาพละเอียดขึ้นที่ 1080p และ FPS ที่ 60 ผ่านโปรเซสเซอร์ที่คัสตอมมาจาก Nvidia Tegra X1 ตัวเดียวกัน

เครื่องเล่นเกมออนไลน์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุเท่ากัน คอนโซลทั้งสองยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลเดียวกันอย่างที่ได้กล่าวไว้คือโปรเซสเซอร์ที่มีพื้นฐานมาจาก Nvidia Tegra X1 พร้อม RAM 4GB นั่นก็หมายความว่าเกมทุกเกมสามารถบนคอนโซลทั้งสองรุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้แต่ตัว Joy-Cons เองก็ยังใช้แบบเดิมเพราะขนาดของคอนโซลทั้งสองรุ่นนั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่ต่างกันเลย

switchtv

คราวนี้ลองมาดูกันว่าส่วนที่แตกต่างกันนั้นมีอะไรบ้าง โดยส่วนแรกจะเป็นเรื่องของขนาดและน้ำหนัก เจ้าตัว Nintendo Switch รุ่นดั้งเดิมพร้อมติด Joy-Cons นั้นมาในขนาดกว้าง ยาว และหนาอยู่ที่ 102 x 239 x 13.9 มม. น้ำหนัก 297 กรัม รวม Joy-Cons ที่ 398กรัม ส่วน Nintendo Switch OLED พร้อมติดจอยเกมจะมีขนาด 102 x 242 x 13.9 มม. น้ำหนัก 320 กรัม และ 420 กรัมหากติดตั้งตัวจอยทั้งสองฝั่ง

ในแง่ของขนาดและน้ำหนักนั้นถือว่ามีความแตกต่างกันอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ว่าเจ้าตัว Switch OLED จะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า แต่นั่นเป็นผลมาจากการหดขอบจอเดิมให้แคบลง ทำให้ความสูงของคอนโซลโดยรวมยังคงเดิมและ Joy-Cons ก็ยังคงใช้งานร่วมกันได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร

ถัดมาว่าด้วยเรื่องการแสดงผล ที่ Nintendo Switch ตัวดั้งเดิมนั้นมาเป็นจอ LCD ในขนาด 6.2 นิ้ว ส่วน Nintendo Switch OLED ให้จอแสดงผลแบบ OLED ตามชื่อที่ขนาด 7 นิ้ว

และนี่คือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุด เพราะจอแบบ OLED นั้นให้ความแม่นยำของสีที่ดีขึ้น คอนทราสต์ที่สูงขึ้น ประสิทธิภาพของภาพที่ได้โดยรวมนั้นดีขึ้น และมีมุมมองที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับพาเนล LCD ที่ใช้ใน Switch รุ่นมาตรฐาน นอกจากนี้จอภาพที่เป็น OLED ยังให้ภาพที่สว่างมากเป็นพิเศษ แต่สีที่ได้นั้นยังให้ความรู้สึกเย็นตา จึงทำให้รู้ว่าภาพที่ได้จากการเล่นทั้งเกมออนไลน์หรือออฟไลน์นั้นมีความคมชัดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

switchcompare_1

สำหรับเรื่องของขาตั้งนั้นไม่พูดก็คงจะไม่ได้ เพราะถึงแม้ทั้งสองรุ่นนั้นมาพร้อมกับขาตั้งในตัว แต่ตัวตั้งเดิมนั้นมีขนาดที่เล็กโดยมีความกว้างอยู่ที่ 10 มม. เท่านั้น ทำให้ไม่ค่อยจะเหมาะกับการวางตั้งเล่นเกมแบบตั้งโต้ะสักเท่าไหร่ ส่วนตัว OLED นั้นมีขาตั้งที่แข็งแรงกว่ามาก นอกจากจะยันกับพื้นได้ตามทางยาวแล้ว ยังสามารถปรับมุมมองได้หลายองศาอีกด้วย

ในเรื่องของสีนั้น คอนโซลทั้งสองรุ่นมากับตัวเลือกในสี 'Neon' ที่ Joy-Cons หนึ่งตัวเป็นสีน้ำเงินและอีกตัวเป็นสีแดง แต่ Switch ตัว OLED เพิ่มทางเลือกสีขาวที่ทั้งดูดีและสะอาดตามาให้ได้ใช้กัน แม้แต้ตัว Dock เองก็ยังเป็นสีขาว ซึ่งโดยปกติแล้วจะมาเป็นแบบพลาสติกสีดำเท่านั้น

พื้นที่จัดเก็บในตัว Nintendo Switch มีขนาดอยู่ที่ 32GB ส่วน Nintendo Switch OLED มีพื้นที่เก็บข้อมูลออนบอร์ด 64GB และทั้งคู่มีช่องเสียบการ์ด microSD เพิ่มเติมได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าตัว OLED จะมาพร้อมกับความจุที่มากกว่าถึงสองเท่า แต่ด้วยพื้นที่ 64GB ก็ยังถือว่าค่อนข้างน้อยสำหรับโหลดเกมออนไลน์มาเก็บไว้จนต้องซื้อการ์ด microSD แยกต่างหากอยู่ดี

switchmicro

คอนโซลทั้งสองมาพร้อมกับ Dock ที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับทีวี มีพอร์ต USB 2.1 สองพอร์ตที่ด้านข้างและเอาต์พุต HDMI เหมือนๆ กัน ความแตกต่างอย่างมากระหว่างตัวมาตรฐานและ OLED คือรุ่นที่ใหม่กว่านั้นมีพอร์ต LAN มาด้วย นั่นทำให้การเล่นเกมออนไลน์สามารถทำได้เสถียรมากขึ้นเมื่อเทียบกับตัวมาตรฐานที่เล่นผ่าน Wi-Fi ได้เท่านั้น

สุดท้ายเป็นเรื่องของเสียงที่ตัว Switch OLED นั้นได้รับการปรับปรุงเล็กน้อย ทำให้ลำโพงมีเสียงที่ดังและสมจริงมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งสองรุ่นรองรับ Bluetooth รวมไปถึงการต่อเข้ากับหูฟังแบบมีสายเช่นเดียวกัน

โดยสรุปแล้ว ถึงแม้ว่าเครื่องเกมคอนโซลแบบพกพาตัวใหม่อาจฟังดูน่าตื่นเต้นอยู่พอสมควร แต่ก็ถือว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นก็ไม่ได้มีมากจนเกินไป ยกเว้นก็แต่จอภาพที่พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากสำหรับการเล่นแบบถือพกพา แต่หากคุณมี Switch อยู่แล้ว หรือเน้นการเล่นเกมผ่านจอทีวีเป็นหลัก มันก็อาจจะไม่คุ้มค่าที่จะอัปเกรดขึ้นมาในราคาที่แพงขึ้นกว่าเดิม

แต่หากคุณยังไม่เคยเป็นเจ้าของเครื่อง Switch รุ่นไหนเลยและอยากที่จะเล่น Console Game ที่สามารถพกไปเล่นที่ไหนก็ได้ Nintendo Switch OLED ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสุดในเวลานี้ครับ เพราะหน้าจอแบบ OLED ใหม่นั้นต้องยอมรับว่ามันดีงามมากจริง ๆ

เว็บไซต์ ZumRoad ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว