Gazza‘s tears Paul Gascoigne

พอล แกสคอยน์ นักเตะผู้ได้รับการขนานนามว่า “แข้งอัจฉริยะที่สุดบนเกาะอังกฤษ” ที่ว่ากันว่า แม้ในปัจจุบัน ก็ยังไม่มีใครที่มีความสามารถทัดเทียมในระดับเดียวกัน

ชื่อ พอล ถูกตั้งมาจากชื่อ ศิลปินคนโปรดของพ่อ ที่คลั่งไคล้ในวงดนตรีชื่อดังยุคนั้น  เดอะ บีทเทิ่ล พอค แมคคาร์ทนี่ย์ และเค้าก็มีความเป็นศิลปินไม่ต่างจาก ไอดอลของพ่อเพียงแต่มันไม่ใช่บนเวทีคอนเสิร์ต มันคือเวทีลูกหนัง ที่เค้าเริ่มฉายแววมาตั้งแต่ยังเด็ก

1967 เกิด

ในครอบครัวที่รายได้น้อย พ่อเป็นช่างก่ออิฐ แม่เป็นสาวโรงงาน มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน ไม่มีแม้บ้านจะอยู่มีเพียงญาติ ที่แบ่งให้ ครอบครัวของเค้าอยู่กันอย่างแออัด 6 คน  ในหนึ่งห้องนั้น

ด้วยสถานะที่ยากจน ความเครียดทำให้พ่อแม่ของเค้ามีปัญหาให้ทะเลาะกันรุนแรงบ่อยครั้ง สถานการณ์เลวร้ายลงอีกเมื่อพ่อผู้เป็นเสาหลัก ป่วยเป็นโรคลมชัก  ทำให้การทำงานที่ปกติ รายได้ก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว กับย่ำแย่ลงไปอีก

เมื่อตอนอายุ 10 ขวบ ความสูญเสียครั้งแรก ภาพความหลัง ยังคงฝังอยู่ในจิตใจ วันที่เพื่อนของเขาถูกรถชนต่อหน้าต่อตา เขาคิดว่ามันเป็นความผิดของเขา กับการดูแลเพื่อน ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ด้วยกันได้ไม่ดีพอ นั่นสะท้อนให้เห็นได้ชัดว่า แม้ในวัยเพียงเท่านั้น เค้าก็มีความรับผิดชอบต่อมิตรภาพของตัวเองมากแค่ไหนเหตุการณ์ครั้งนั้นยังคงตามหลอกหลอน จนหลายต่อหลายครั้งที่เขาต้องเข้ารักษาตัวกับทาง จิตแพทย์ในด้านเยียวยาจิตใจ

ช่วงเวลานั้นเค้าก็เป็นเด็กเกเรคนนึง ไม่มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่นๆ อาหารที่กินก็มีเพียง ฟาสต์ฟู๊ด อาหารบางครั้งเป็นเพียง ขนมปัง ซึ่งว่าดีมากแล้วในแต่ละมื้อ อยากได้อะไรมากๆ บางครั้งก็ใช้วิธีหยิบฉวยเอา เรียกง่ายๆว่า “ลักเล็กขโมยน้อย” นั่นแหละ

1980 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

เขาเริ่มต้นเขียนบันทึกเส้นทางลูกหนังของตัวเอง กับการเข้ามาเป็นนักเตะในทีมเยาวชนของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดใช้เวลา 5 ปี พาตัวเองขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่

ในปี 1985 

ช่วงเวลานี้เอง ที่เค้าเริ่มมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นมีรายได้ จุนเจือครอบครัว ได้ช่วยพ่อแม่แบ่งเบาภาระ รอยยิ้มที่เปี่ยมสุขในตอนลงแข่งในแต่ละนัดมันมาจากใจที่ได้พบกับพื้นที่ที่ดีสุดในชีวิตของตัวเอง ที่เขาค้นหามานาน “สนามฟุตบอล”

ในสนามนี้ มันไม่ได้คับแคบเหมือนห้องนอนที่นอนอัดกัน 6 คนมาตลอดชีวิต

มันใหญ่พอที่จะเปิดประตูชีวิตเขา สู่โลกภายนอกที่มีอะไรให้น่าค้นหามากกว่าที่ผ่านมา

พอล แกสคอยน์ ใช้เวลาอย่างรวดเร็วในการ สร้างชื่อให้ตัวเองในสนามฟุตบอล ลีลาในสนามของเขาเป็นที่กล่าวถึงกันมากที่สุดในเกาะอังกฤษยุคนั้น ไม่บ่อยครั้งนักที่นักบอลดาวรุ่งจะก้าวขึ้นมาโด่งดังในเวลาอันรวดเร็วด้วย เทคนิคอันแพรวพราว การเลี้ยงบอลที่เชื่องเท้า การครองบอลที่ยากจะแย่งได้ลูกจ่ายสั้น ส่งยาว การยิงประตู ลูกเตะกินเปล่า ทุกอย่างมันน่าตื่นตา ตื่นใจไปหมด

ภาพคนดูที่เห็น แกสคอยน์ ลากบอลหลบผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม คนแล้วคนเล่าจะส่งบอลไปทางขวา อยู่ๆก็เปลี่ยนใจพลิกข้อเท้าเบาๆ ให้กองหลังเสียหลักแล้วจ่ายไปอีกทางเป็นภาพที่เห็นทีไร ก็อดที่จะยกสองมือมาประกบ แล้วถูมือขยี้ไปมา ส่งเสียงฮือฮา พร้อมปรบมือให้ ด้วยต้องมนต์ลูกหนังของ พอล แกสคอยน์ 

หนึ่งในภาพคลาสสิคของวงการลูกหนังภาพนึงที่ยังคงติดตาแฟนบอลมาถึงปัจจุบัน

เกิดขึ้นในนัดที่ วิมเบิลดัน โคจรมาพบกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ต วันนั้น พอล แกสคอยน์ ก็โชว์ฟอร์มเทพเช่นเคย ทั้งลากเลี้ยงบอลหลบฉีกกองกลาง กองหลังทีมจอมโหดขาดกระจุย 

และในจังหวะที่นิวคาสเซิ่ลได้ลูกฟรีคิกวินนี่ โจนส์ เดินเข้ามาประกบ พอล แกสคอยน์ ที่ยืนอยู่ตรงกำแพง แล้วบีบเข้าที่กล่องดวงใจแบบเต็มมือ แกสคอยน์ แหกปากร้องลั่น เวลานั้นไม่มีใครได้ยิน แต่ แกสคอยน์ ในเวลานั้น คือนักเตะดาวรุ่งที่โด่งดังที่สุดในเกาะอังกฤษ เหตุการณ์นั้นถูกจับภาพไว้ได้ โดยตากล้องคนหนึ่ง


หลังเกมนั้น พอล แกสคอยน์ ก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไร วินนี่ โจนส์ เขาได้ส่งดอกกุหลาบไปให้กับ โจนส์ เพื่อสื่อสารเป็นนัยๆว่า ผมไม่ได้โกรธพี่นะครับ แต่สิ่งที่ วินนี่ โจนส์ ส่งกับมาให้ แกสคอยน์ คือ ไม้ขัดส้วม พร้อมข้อความว่า “แกอยากมาหวังว่าชั้นจะโรแมนติกกับแก ไอ้อ้วน”

ชื่อเสียงของ พอล แกสคอยน์ ในช่วงเวลานั้น ช่างดึงดูดให้สโมสรต่างๆ อยากเซ็นสัญญาคว้าตัวเขาไปร่วมทีมอย่างมากมาย โดยเฉพาะ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส ที่เทียวไปเทียวมาอยู่ถึง 6 ครั้ง

แม้กระทั่ง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ตอนนั้นคุมทีมปีศาจแดง ซึ่งทีมของเขายังไม่ดีพอที่จะลุ้นแชมป์ เขาหวังจะคว้าตัว พอล แกสคอยน์​ไปร่วมทีมเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยกัน

การเจรจาเป็นไปด้วยดี แหล่งข่าวบางแห่งบอกว่า มีการตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายกลายเป็น “ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส” ที่ได้ตัว แกสคอยน์ ไปร่วมทีมโดยมอบสิ่งที่ พอล แกสคอยน์ ต้องการมาโดยตลอด คือ

สโมสรได้เสนอบ้านให้กับพ่อแม่ของ พอล ถ้าหากพอเซ็นสัญญามาอยู่ด้วยกันที่ ลอนดอนแล้ว เขาก็ตัดสินใจไปลอนดอนในทันที เพื่อความสุขที่พ่อแม่รอคอยมาลอดชีวิต

1988 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

หลังจากย้ายมาร่วมทีม ไก่เดือยทอง ในฐานะดาวรุ่งชื่อดังที่สุดของประเทศ ลีลาและฝีเท้า ที่จัดจ้านกว่าเมื่อครั้งที่ยังเล่นให้กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และเมื่อได้อยู่ภายใต้การดูแลของ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ผู้จัดการทีมที่ดึงตัวเค้าเข้ามาเพื่อเป็นแกนหลักสำคัญให้กับทีม ร่วมกับ แกรี่ ลินิเกอร์ ศูนย์ทีมชาติอังกฤษ

เวลานี้นี่เองที่ พอล แกสคอยน์ เริ่มเติบโตจนก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษ

ประตูบานใหญ่ที่จะเปิดให้โลกได้รู้จัก “อัจริยะคนใหม่แห่งวงการลูกหนัง” บนเวทีฟุตบอลโลกที่สุดแสนจะคลาสสิคที่สุดครั้งนึง 

1990 ฟุตบอลโลกอิตาลี

บอลโลกบนดินแดนมักกะโรนี ที่ว่ากันว่าดีที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก นอกจากบทเพลงที่ยังคงเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวของทีมชาติอังกฤษนั้นก็เช่นกันทีมชาติอังกฤษทีมนั้น เป็นทีมที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง 

เพราะมีนักเตะที่เก่งกาจ และเต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ซึ่งอยู่ภายใต้การคุมทีมของ บ็อบบี้ ร็อบสัน (ได้เป็น เซอร์ หลังผลงานในบอลโลกปีนี้) โดยมี

  • กัปตันกระดูกเหล็ก - ไบรอัน ร็อบสัน 
  • ผู้รักษาประตูตัวเก๋า - ปีเตอร์ ชิลตัน 
  • แบ็คซ้ายจอมทะลุทะลวง - สจ๊วต เพียร์ซ
  • ปีกพ่อมด - คริส ว๊อดเดิ้ล
  • มิสเตอร์ ไนซ์กาย - แกรี่ ลินิเกอร์

รวมกับ “แก๊ซซ่า” พอล แกสคอยน์ ซึ่งเขามาเติมเต็มความหวังให้กับทีมชุดนั้นเป็นอย่างมาก

และทีมสิงโตคำรามก็สามารถทำผลงานในบอลโลกครั้งนั้นได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว แม้จะต้องประสบกับปัญหาการขาดกัปตันทีมอย่า ง ไบรอัน ร็อบสัน ที่ไม่สามารถลงช่วยทีมได้ แต่ก็กลายเป็นการเปิดโอกาสให้สองกองกลางดาวรุ่ง อย่าง เดวิด แพล็ต  และ พอล แกสคอยน์ได้เฉิดฉายอย่างเต็มที่ 

โดยเฉพาะในรายของ พอล แกสคอยน์ ที่คนทั้งโลกได้เห็นความสามารถดุจดวงดาวที่เปล่งแสงอันสุกสกาว จนได้รับการยกย่องในระดับเดียวกันกับดีเอโก้ มาราโดน่า ของ ทีมชาติอาร์เจนติน่าเลยทีเดียว

คนอังกฤษเคยเห็น มาราโดน่า ชูถ้วยบอลโลก เมื่อสี่ก่อนมันถูกฉาบไปด้วยภาพความฝันว่า พอล แกสคอยน์ จะได้ชูถ้วยใบนี้บ้าง แต่ทว่าเส้นทางความฝันมันเลือนลางเมื่อความจริงได้ปรากฏ รอบรองชนะเลิศ เยอรมัน พบ อังกฤษ เกมเสมอกันอยู่ 1-1 ผู้ชนะในนัดนี้ จะได้เข้าชิงกับอาร์เจนติน่า แชมป์เก่า

ในนาทีที่ 99 ช่วงเวลาอันแสนกดดัน พอล แกสคอยน์ เลี้ยงหลบผู้เล่นสองคนของเยอรมัน จังหวะนี้บอลห่างตัวเขาออกไปเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ โธมัส แบร์โธลด์ วิ่งเข้ามาถึงบอลเช่นเดียวกัน แกสคอยน์ พุ่งตัวสไลด์แบร์โธลด์ ที่ถึงบอลก่อนล้มกลิ้งไป ผู้ตัดสินควักใบเหลืองให้กับ พอล แกสคอยน์ในทันที

ช่วงเวลานั้น น้ำตาลูกผู้ชายเริ่มไหลออกมาก เค้าต้องเล่นต่อในช่วงเวลาที่เหลือ แต่สภาพจิตใจของ แกสคอยน์ นั้นแตกละเอียด มันคือความผิดหวังที่ หากทีมได้เข้ารอบ  เค้าจะไม่ได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ

บ็อบบี้ ร็อบสัน เดินเข้ามาปลอบใจ พอล แกสคอยน์

มันไม่มีอะไรต้องกังวลไอ้ลูกชาย นายคือผู้เล่นที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์นี้

 

สิ่งที่นายทำมันยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ชีวิตต้องก้าวต่อไป

 

นี่คือครั้งแรกของนาย ไม่ต้องกังวลกับมัน

แต่ใครจะรู้ว่า นั่นคือ ฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของชายที่ชื่อ พอล แกสคอยน์

ฟุตบอลโลกครั้งนั้น คือ ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของอัจฉริยะผู้นี้

1991 เอฟเอคัพ 

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส พบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ชัยชนะวันนั้นตกเป็นของทีมไก่เดือยทอง ในที่สุดวันที่ พอล แกสคอยน์ รอคอยก็มาถึง

แต่ทว่าวันนั้น คือ จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญครั้งหนึ่งใน ชีวิตของเค้า เมื่อเขาทำฟาล์วผู้เล่นของทีมเจ้าป่า จนตัวเองได้รับบาดเจ็บเสียเอง และอาการบาดเจ็บในครั้งนั้นมันยาวนานเป็นปี นานจนทำให้เค้ากลายเป็นคนอีกคน

ช่วงเวลาที่เค้าไม่ได้ลงสนาม กลับกลายเป็นว่าเค้าโหยหาความสุขที่หายไป

ชีวิตนอกสนามระหว่างช่วงรอรักษาอาการบาดเจ็บช่างน่าเบื่อ เค้าเบนเข็มตัวเองเข้าสู่วงเหล้า ติดตู้เกม ซึ่งมันเป็นความบันเทิงที่เค้าทำได้ ในเวลาที่ไม่ต้องฝึกซ้อม หรือ ลงสนาม

แม้ในเวลาต่อมา เค้าจะกลับมาลงสนามได้ แต่ก็พาตัวเองกลับมาเล่นฟุตบอลให้สนุกเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วลีลาการเล่นในสนามของเค้ายังคงพอเล่นได้ดี ยังเป็นความหวังสำคัญของทีม และแฟนบอลยังคงรักและเป็นกำลงใจให้เค้าเสมอ

แต่เรื่องราวนอกสนามก็สร้างความปวดหัวให้กับทีมไม่น้อยเช่นกัน

จนกระทั่งวันนึง เสียงโทรศัพท์จากกรุงโรมก็เปลี่ยนชีวิตชายคนนี้อีกครั้ง

1992 เซเรียอา กับ ลาซิโอ

เมื่อครั้งบอลโลก 1990 ดินแดนแห่งนี้ คือ ช่วงเวลาที่แสนประทับใจของ พอล แกสคอยน์การย้ายมาร่วมทีม อินทรีฟ้าขาว ลาซิโอ จึงเป็น ความหวังใหม่ ที่เค้าจะได้เดินทางต่อไปบนถนนสายนี้ 

แต่ทว่าฟุตบอลกัลโช่ไม่ได้เล่นเกมรุกสนุกดุดัน เหมือนกับบอลอังกฤษ การซ้อมก็หนักกว่า ซึ่งก่อนที่จะมา พอล แกสคอยน์ คิดว่าที่อิตาลีจะซ้อมกันเบากว่านี้

ฟุตบอลที่ไม่เข้ากับสไตล์การเล่น และภาษาที่สื่อสารไม่ได้ ทำให้สถานการณ์ของเขาแย่ลงไปกว่าเดิม

ซึ่งในขณะที่ฟอร์มการเล่นของเขาตกลงไป แต่การทำตัวนอกสนามของเขากลับเลวร้ายมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเค้ายังคงเสพติดการกินเหล้าเข้าสังคม ชีวิตในอิตาลี จึงเป็นฝันร้ายอีกครั้งนับตั้งแต่บอลโลก 1990

แม้แฟนบอลจะยังรักเขาเป็นอย่างมาก เพราะเค้าแสดงออกถึงความจริงใจต่อทุกคนเสมอ เพียงแต่ผลงานในสนามมันไม่เปรี้ยงปร้างเท่ากับผลงานบนหน้าสื่อที่เต็มไปด้วยข่าวฉาว 4 ปีใน เซเรียอา เขาทำได้เพียง 6 ประตู ก่อนตัดสินใจย้ายทีมอีกครั้ง 

1995 กลาสโกว์ เรนเจอร์

ในลีกสกอตแลนด์ ไม่ใช่ลีกที่แข่งขันกันดุเดือดเช่นในอิตาลี และการฝึกซ้อมที่ไม่ได้หนักเหมือนเก่า แถมมาตรฐานของ แกสคอยน์ ยังสูงกว่านักเตะหลายคน ที่พอจะอยู่ในระดับเดียวกันก็มีเพียง ไบรอัน เลาดรู๊ป เพื่อนร่วมทีมของเขานั้นเอง

แกสคอยน์ กลับมาเล่นบอลได้ในระดับเทพอีกครั้ง แถมนอกสนามยังไม่มีใครมารบกวน เหมือนตอนอยู่อิตาลี ประตูสู่ทีมชาติอังกฤษ เปิดขึ้นอีกครั้ง กับ บอลยูโร ในบ้านเกิด เค้ากลับมาเป็นความหวังของชนชาวเมืองผู้ดี

1996 ฟุตบอลยูโร

ครั้งนี้ พอล แกสคอยน์ ไม่ได้มาเล่นกับทีมชาติในฐานะดาวรุ่งเหมือนเมื่อ 6 ปีก่อน

เค้าคือ จอมทัพสิงโตคำรามเต็มตัว ยืนบัญชาเกมอยู่หลัง อลัน เชียร์เรอร์ และ เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม

นี่คือจุดสูงสุดในอาชีพการค้าแข้งของ พอล แกสคอยน์ กับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมเหมือนครั้งก่อนๆ และเขาได้ฝากลูกยิงที่ดีที่สุดลูกนึงของ ฟุตบอลยูโรไว้ในนัดที่เจอกับเพื่อนแค้นแสนรักอย่างสกอตแลนด์ 

บอลส่งมาจากด้านหลัง แกสคอยน์ ใช้เท้าซ้ายกระดกบอลข้ามหัว โคลิน เฮนดรี้ กองหลังจอมแกร่งของสกอตแลนด์ ก่อนวอลเลย์ด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม ตามด้วยท่าดีใจ เก้าอี้หมอฟัน ที่ประชดประชันสื่อที่ว่าเค้านั้นเป็นพวกขี้เมา

และท้ายสุด บทสรุปของบอลยุโรปหนนี้ก็เหมือนหนังม้วนเดิม อังกฤษ ตกรอบด้วยการแพ้จุดโทษให้กับเยอรมันอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศ เพียงแต่ครั้งนี้ แกสคอยน์ สามารถเล่นได้ดี จนได้เป็นหนึ่งในมือสังหารจุดโทษ

อาถรรพ์ลูกจุดโทษสองครั้งหลังสุดของอังกฤษ ยังติดตามมาจนถึงในปัจจุบัน

1998 บอลโลก และ ความผิดหวัง

ชีวิตของ พอล แกสคอยน์ เดินมาถึงรอยต่อที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือ ช่วงเวลาก่อนแข่งบอลโลก 1998 เวลาที่ พอล แกสคอยน์ รอคอยด้วยความคาดหวังที่มากที่สุด

เค้าอยากลบรอยแผลในใจเมื่อครั้ง บอลโลก 90 โดยการพาทีมชาติอังกฤษ ไปสู้ศึกบอลโลกครั้งนี้ที่ฝรั่งเศส

ผู้จัดการทีมหลายคนที่ยอม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ กับ สิ่งที่เขาทำนอกสนาม ไม่ว่าจะเป็นการกินเหล้าเข้าผับ ไม่ขยันซ้อม เพราะเขายังทำผลงานได้ดี แต่ไม่ใช่กับผู้จัดการทีมอังกฤษในเวลานั้น อย่าง เกล็น ฮ็อดเดิ้ล

ฮอดเดิ้ล ตัดชื่อ พอล แกสคอยน์ ออกจากทีมชุดลุยบอลโลก เมื่อแกสคอยน์ รู้ข่าวก็อาละวาด ทำลายข้าวของในห้องทำงานของผู้จัดการอังกฤษเละเทะ ใครจะรู้ว่าการถูกตัดออกจากทีมชาติในครานั้น จะเป็นการตัดชีวิตของ แกสคอยน์ กับ โลกลูกหนังไปตลอดกาล

ชีวิตหลัง 1998

ความผิดหวังในครั้งนั้นทำให้ พอล แกสคอยน์ หันหน้าเข้าสู่วงเหล้าหนักกว่าเดิม

เขาย้ายไปอีกหลายสโมสร ทั้ง มิดเดิลสโบรห์ ,เอฟเวอร์ตัน, เบิร์นลี่ย์ แต่ทุกที่ๆไปเพื่อเตะบอลหาเงินใช้เท่านั้น ไม่มีความมุ่งมั่นใดๆ อีกต่อไปแล้ว ก่อนเขาจะค่อยๆหายไป กลายเป็นคนที่เมาหัวราน้ำตลอดเวลา จนถูกฟ้องล้มละลายในเวลาต่อมา

ข่าวคราวของ แกสคอยน์ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา หลังความผิดหวังที่เค้าไม่ได้ไปบอลโลก 98 มีแต่เรื่องราวที่เขาเมาหมดสภาพ ทำร้ายร่างการภรรยา ติดโคเคน และทุกครั้งที่มีข่าวร้ายจะตามมาด้วยคำสัญญาว่าจะเลิกเหล้า แล้วก็วนเวียนกลับไปติดมันอีกทุกครั้ง

จนกระทั่งในปี 2017 

วันที่แฟนบอลเกือบทั่วโลกรอคอยก็มาถึง 

วันที่เค้าประกาศเลิกเหล้าอย่างเป็นทางการ

วันที่เค้าลงสนามในนัดเปิดสนามใหม่กับทีมที่เค้ารักที่สุดในชีวิต

แม้เป็นเวลาเพียง 15 นาที ที่เค้าได้กลับมาเตะฟุตบอลอีกครั้ง ในนัดเปิดสนามแห่งใหม่ของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส

ผมเชื่อว่าใครหลายคนยินดีที่ได้เห็น คนอันเป็นที่รักได้กลับมาเดินบนเส้นทางชีวิตที่ดีขึ้น แม้ลึกๆในใจยังกลัว กลัวว่าเขาจะกลับไปพึ่งพาเหล้าอีกครั้ง แต่สิ่งสำคัญสำหรับคนที่เคยทำผิดพลาด สิ่งนั้น คือ โอกาสและความเชื่อมั่น

เวลานี้เราได้แต่เชื่อมั่น และหวังว่าน้ำตาของเขาจะไม่ไหลออกมาอีกครั้ง นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้เคยเห็นมันที่อิตาลี 

ความจริงอย่างหนึ่ง ที่เขาเคยออกมาให้สัมภาษณ์ ถึงเบื้องหลังน้ำตาในวันนั้น

 

สิ่งที่เขาเสียใจ ก็คือ

 

มันเป็น 6 สัปดาห์ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของเค้า ซึ่งผมไม่ต้องคิดอะไรเลย

มีแต่ซ้อมบอล เล่นบอล ท่ามกลางมิตรภาพ เค้าเสียดายที่มันกำลังจะจบลง...

 

นั่นคือ ความในใจของคนที่ถูกสื่อต่อว่าหลายต่อหลายครั้งว่า

"ไม่มีสมอง" แต่เราคงได้เห็นแล้วนะครับว่า คนๆนี้ มี "หัวใจ"

 

พอล แกสคอยน์

เว็บไซต์ ZumRoad ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว