สตีเว่น เมเนเจอร์(ราร์ด)

Steven ( mana ) Gerrard

ยอดนักสู้ในตำนาน สู่ ผู้จัดการอนาคตไกล

 

เขา คือ สัญลักษณ์ของ สโมสรลิเวอร์พูล

  เป็นความภูมิใจของคนท้องถิ่น เพราะเป็น สเกาเซอร์ โดยแท้ ที่ไต่เต้าขึ้นมาจากทีมเยาวชน ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ตอนอายุ 18 ปี อายุ 20 ปี คว้า "ทริปเปิ้ล แชมป์" ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ ยูฟ่า คัพ ได้รางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม PFA และติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก

เป็นกัปตันทีม ด้วยวัยเพียงแค่ 23 ปี ก่อนที่ฤดูกาลต่อมาจะพาทีมเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เอซี มิลาน โดนนำไปก่อนในครึ่งแรก 0-3 แฟนบอลเกือบทั้งโลกยอมรับแล้วว่า ลิเวอร์พูล ต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ เจอร์ราร์ด เขาปลุกใจเพื่อนร่วมในระหว่างพักครึ่ง โดยไม่ให้มีสต๊าฟอยู่ด้วยเลยแม้แต่คนเดียว

"ลิเวอร์พูล คือ สิ่งเดียวที่ผมมี ที่นี่คือสโมสรของผม และผมไม่ต้องการที่จะเป็นตัวตลกในประวัติศาสตร์ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก" ครึ่งหลัง เจอร์ราร์ด ยิงประตูให้ทีมไล่กลับมา 1-3 จนทีมสามารถตีเสมอได้ ก่อนเอาชนะ ปีศาจแดงดำ ไปด้วยการดวลจุดโทษ สร้างตำนานปาฏิหาริย์ที่อิสตันบูล

ทำประตูในรอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลสโมสร ได้ครบทุกรายการ ยูฟ่า คัพ ปี 2001 , ลีก คัพ ปี 2003 , ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2005 และ เอฟเอ คัพ ปี 2006 

ปี 2013/2014 คว้าชัยชนะติดต่อกันได้มากที่สุด 11 เกม จากผลงานอันยอดเยี่ยมของ กัปตันเจอร์ราร์ด, ซัวเรส และ คูตินโญ่ ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในเส้นทางของการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

จนกระทั่งท้ายฤดูกาล ในนัดที่พบกับเชลซี เขาเกิดลื่นล้มในจังหวะที่ มามาดู ซาโก้ ส่งบอลมาให้ จนโดน เดมบ้า บา ฉกเข้าไปยิงประตู ดับความหวังทั้งหมดที่พวกเขาสร้างมา และในนัดต่อมา ลิเวอร์พูล ก็ทำได้แค่เสมอกับ คริสตัล พาเลซ 3-3 ทั้งที่นำไปก่อนถึง 3-0 ส่งผลให้หงส์แดงจบในอันดับที่ 2 โดยตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 คะแนน

และมันคือความใกล้เคียงที่สุดของ สโมสรลิเวอร์พูล และ เจอร์ราร์ด ในการคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกนับตั้งแต่ ปี 1990 เขาพูดถึงเกมที่เจอกับ เชลซี ว่า "มันยากเกินกว่าที่คนทั่วไปจะคิดได้"

จบปีนั้น ซัวเรส ย้ายออกไป และสองปีต่อมาเขาก็ย้ายทีมออกไป ด้วยเหตุผลที่ แบรนดอน ร็อดเจอร์ ผู้จัดการทีมในเวลานั้น ลดบทบาทความสำคัญของเขาลง จึงต้องมีการแยกทางจากสโมสรอันเป็นที่รักไปทั้งน้ำตา 

หลังจากไปค้าแข้งใน สหรัฐ อเมริกา อยู่ช่วงสั้นๆ เส้นทางของ เจอร์ราร์ด ก็ได้เปลี่ยนจาก นักสู้ในสนาม สู่ บทบาทผู้จัดการทีม ช่วงต้นปี 2017 เจอร์ราร์ด กลับมายัง ลิเวอร์พูล อีกครั้ง ในฐานะเฮดโค้ชทีมเยาวชนของ หงส์แดง ( U-18 )

หลังจากนั้น เขาก็ได้ขึ้นมาเป็นกุนซือทีมชุดU-19 ทำทีมลุยศึก ยูฟ่า ยูธ ลีก ฤดูกาล 2017/2018 และสามารถพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนจะไปพ่ายจุดโทษให้กับ แมนฯ ซิตี้ ไปอย่างน่าเสียดาย

เมษายน 2018 เจอร์ราร์ด รับงานกุนซือใหญ่เต็มตัว หลังจากเซ็นสัญญาคุม ทีมกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ทีมดังของลีกสกอตแลนด์ โดยที่ในช่วง 2 ซีซั่นแรก เจอร์ราร์ด พาทีมจบด้วยการเป็น "รองแชมป์"

และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น สโมสรลิเวอร์พูล ก็ได้ไต่บันไดความสำเร็จจาก แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาล 2018/2019 และคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ ในฤดูกาล 2019/2020 สิ้นสุดการรอคอยแชมป์ลีก เป็นเวลา 30 ปี

เท่ากับว่าช่วงเวลาที่ เจอร์ราร์ด มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในทีม ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก คือเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบ ฤดูกาล 2020/21 กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ภายใต้การนำทัพของ เจอร์ราร์ด ก็ระเบิดฟอร์มคว้า แชมป์ลีกสกอตแลนด์ ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ แบบ "ไร้พ่าย" โดยไม่แพ้ใครตลอดทั้งฤดูกาล ทวงบัลลังก์แชมป์ลีกกลับสู่ถิ่น ไอบรอกซ์ สเตเดียม เป็นสมัยแรกในรอบ 10 ปี

พฤศจิกายน 2021 เจอร์ราร์ด กลับมายัง พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง โดยเป็น แอสตัน วิลล่า ที่จ่ายเงินชดเชยเป็นค่าฉีกสัญญาให้กับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 3 ล้านปอนด์ และดึงตัว เจอร์ราร์ด มานั่งแท่นกุนซือคนใหม่ในถิ่น วิลล่า ปาร์ก

เจอร์ราร์ด เริ่มต้นทำผลงานการคุมทีมได้อย่างน่าพอใจ และได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารเป็นอย่างดี จากการเสริมทัพในช่วงตลาดฤดูหนาว ที่ทีมได้ดึงตัว ลูกาส์ ดีญ และ คาลัม แชมเบอร์ส เข้ามาสู่ทีม

แต่ดีลที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับทีมมากที่สุด ก็คือ การกลับคืนสู่ พรีเมียร์ลีก ของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และนี่คือโอกาสครั้งสำคัญ ที่ คูตินโญ่ จะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง หลังจากตัดสินใจก้าวออกจาก แอนฟิลด์ ในราคาค่าตัวที่สูงลิบ เมื่อสี่ปีก่อน แต่กลับล้มเหลวตลอดช่วงเวลานั้น

เจอร์ราร์ด ส่ง คูตินโญ่ ลงสนามนัดแรกในฐานะตัวสำรอง ในเกมที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ แอสตัน วิลล่า ตามหลังอยู่ 0-2 คูตินโญ่ ลงมาจ่าย 1 และ ยิง 1 พาทีมเก็บแต้มสำคัญได้สำเร็จ 

ทำให้การร่วมงานกันครั้งนี้ ของ เจอร์ราร์ด และ คูตินโญ่ สามารถสร้างรอยยิ้มเบาๆ ให้กับแฟนบอลที่ยังรักในตัวของพวกเขา แถมยังมีข่าวแว่วๆ ว่า แอสตัน วิลล่า จะนำ หลุยส์ ซัวเรส กลับมาอีกด้วย

หลายคนอาจบอกว่า เจอร์ราร์ด ควรทำทีมเพื่ออนาคตโดยใช้เด็กดาวรุ่ง ไม่ใช่มุ่งเอาคนที่ใกล้หมดสภาพ มาใช้งานแบบนี้ แต่บางที ประสบการณ์ของนักเตะระดับโลก ก็เป็นสิ่งสำคัญในการประคับประคองทีม เพื่อก้าวไปสู่จุดที่สูงสุดด้วยเวลาที่น้อยกว่า

และเราคงต้องเฝ้ารอดูกันว่า ผลงานของ แอนตัน วิลล่า ในมือของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เมื่อจบฤดูกาลนี้จะออกมาเป็นอย่างไร

 

จากแฟนหงส์วัยรุ่นคนหนึ่งที่ขอเข้าไปฝึกงานในสโมสร

จากเด็กหนุ่มในทีมเยาวชน ที่เล่นบอลด้วยพลังและความมุทะลุดุดัน 

ได้ก้าวไปสู่การเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งของวงการลูกหนัง ในยุคของเขา จนกลายเป็นตำนานของ สโมสรลิเวอร์พูล 

ในวันนี้เขาเป็นผู้จัดการทีม แอสตัน วิลล่า ในฐานะดาวรุ่งอีกครั้งในวงการกุนซือพรีเมียร์ลีก

 

แต่เชื่อว่านอกจากแฟนบอลวิลล่าแล้ว คงมีสาวก เดอะ ค็อป อีกจำนวนไม่น้อย ที่เป็นกำลังใจให้กับเขา ให้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดในฐานะผู้จัดการทีมเผื่อว่าในวันหนึ่ง เส้นทางจะพาให้ตัวเขากับ ลิเวอร์พูล กลับมาพบกันอีกครั้งในฝั่งเดียวกัน

 

อดีตกัปตันที่ทั้งหัวใจ มีแต่ ลิเวอร์พูล มาโดยตลอด ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม

 

นายไม่มีวันเดินเดียวดาย

"สตีเว่น เจอร์ราร์ด"

เว็บไซต์ ZumRoad ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว