การจ้างงานในวงการเทคโนโลยีกำลังประสบกับสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในขณะที่ AI หรือปัญญาประดิษฐ์เริ่มมีบทบาทมากขึ้น การตรวจสอบและสัมภาษณ์ผู้สมัครงานด้วย AI กำลังกลายเป็นแนวทางใหม่ที่องค์กรต่างๆ หันมาใช้อย่างกว้างขวาง เป็นเหตุให้การหางานในภาค IT กลายเป็นเรื่องที่ท้าทายขึ้นกว่าที่เคย
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานตกต่ำที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งกลับตรงข้ามกับการคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตในภาคเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา ศึกษาจาก ISC2 แสดงให้เห็นว่าความกดดันทางเศรษฐกิจและการลดจำนวนพนักงานในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงเทคโนโลยีและการบริการของรัฐบาล ทำให้เกิดการเลิกจ้างอย่างกว้างขวาง
Robert Half ได้ศึกษาความคิดเห็นของคนทำงานจำนวนมากกว่า 1,000 คน พบว่า 35% ของผู้ทำงานในวงการเทคโนโลยีกล่าวว่าความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือการค้นหางานที่ตรงกับทักษะของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีผู้ทำงานในวงการ IT ถึง 30% ที่แจ้งว่าพวกเขามักมีปัญหาในการเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์
George Denlinger ประธานฝ่ายดำเนินงานของ Robert Half กล่าวว่า "การใช้ AI สามารถเป็นเครื่องมือช่วยในการหางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจดจำคุณสมบัติที่สำคัญ จัดรูปแบบประวัติย่อ และปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของตำแหน่ง" เขายังแนะนำให้อยู่อย่างสมดุลระหว่างการใช้ AI และการแสดงออกถึงตัวตนของตนเองในเอกสารสมัครงาน
ทั้งนี้ คนหางานไม่ควรพึ่งพา AI มากเกินไป เนื่องจากการแสดงตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์คือสิ่งที่นายจ้างต้องการ การใช้ AI อย่างถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการต่างๆ ในการสมัครงานสะดวกยิ่งขึ้น แต่จะต้องมีการคัดกรองข้อมูลและการนำเสนอที่ทำให้เห็นถึงประสบการณ์และทักษะของผู้สมัครจริง
อย่างไรก็ตาม การใช้ AI ย่อมมีเส้นแบ่งที่ชัดเจน ในการใช้ AI ระหว่างภาษาที่สร้างจากระบบและการแสดงตัวตนที่แท้จริง ข้อควรระวังคือการไม่ให้เกิดความไม่ชัดเจนหรือการแฝงความไม่จริงในประวัติย่อหรือการสัมภาษณ์
การเรียนรู้และพัฒนาทักษะในวงการเทคโนโลยียังคงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งผู้หางานควรขยายการค้นหาออกไปไม่จำกัดแค่สาขาเดียว การเข้าร่วมโครงการอบรมหรือการได้รับใบรับรองที่เหมาะสมกับทักษะสามารถช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้สมัครในสายงานที่ต้องการ
ในสถานการณ์ที่ AI มีอิทธิพลต่อการจ้างงาน ผู้หางานควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาด และสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมงานในอนาคต