"อาร์เซน่อลยุคไร้พ่าย" ตำนานบทเก่าที่ผู้คนยังจดจำ

"อาร์เซน่อลยุคไร้พ่าย" ตำนานบทเก่าที่ผู้คนยังจดจำ

ไร้พ่าย ความหมาย ตรงตัวก็คือการไม่แพ้ใคร ซึ่งใช้ได้กับหลายอย่าง ส่วนใหญ่จะใช้เกี่ยวกับการแข่งขันเช่น เขาคนนี้ชนะมาแบบไร้พ่าย หรือชนะมาโดยที่ไม่แพ้ให้ใครเลย และวันนี้เราจะมาพูดถึงตำนานทีมไร้พ่ายในโลกของฟุตบอลกัน 

โดยในเกมการแข่งขันแบบทีมไม่ง่ายเลยที่จะชนะในแต่ละเกม ไม่ใช่ว่าคนๆเดียวที่เก่งจะสามารถพาทีมชนะได้ มันต้องใช้ทั้งพลังกาย พลังใจ และความสามัคคี ความตั้งใจ และ แผนการณ์ และทีมที่ทำได้ที่เราจะพูดถึงนั้นจะเป็นทีมไหนไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ อาร์เซน่อล ทีมจากลอนดอนเหนือ ตำนานแชมป์ไร้พ่าย สโมสรแรกและสโมสรเดียวในพรีเมียร์ลีกจนถึงทุกวันนี้

arsenal-invincible-arsene-wenger

ฤดูกาลประวัติศาสตร์ อาร์เซน่อล ยุคไร้พ่าย ในปี 2017 -2018 ทีมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติคะแนน ถึง 100 แต้ม ยิงประตูไปถล่มทลาย แต่ก็ยังไม่สามารถได้สัมผัสคำว่าไร้พ่ายทั้งฤดูกาลแบบที่ ทีมอาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของ ผู้จัดการที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล อาร์แซน เวนเกอร์ สามารถทำได้ในฤดูกาล 2003-2004  ฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำที่สุด สำหรับแฟนบอลเหล่า เดอะ กูนเนอร์ส

อินวิซิเบิ้ล (invincible) คือชื่อที่มอบให้กับทีม อาร์เซน่อล ไร้พ่าย ชุดนี้ ด้วยผลงานชนะ 26เกม เสมอ 12 และไม่แพ้ให้กับใครเลยในเกมลีก 38 นัด

arsenal-invincible-antonio-reyes

ในช่วงต้นฤดูกาลนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมของทีมไร้พ่ายชุดนี้ ไม่ได้เสริมทัพมากมายนักเนื่องจากตัวเขาต้องการที่จะเก็บงบประมาณไว้เพื่อโครงการสร้างสนามใหม่ นักเตะที่เข้ามาเสริมทัพใหม่จึงมีแค่ ผู้รักษาประตู เยนส์ เลมัน และ กองหน้า โฆเซ อันโตนิโอ เรเยส

โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปกับการต่อสัญญากับผู้เล่นตัวหลักไว้ได้ ซึ่งทำให้ทีมไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรไปมากนัก ในรูปแบบการเล่นของทีมในยุคนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ จะจัดให้ทีม อาร์เซน่อลเล่นในระบบ 4-4-2 โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบในเกมเป็น 4-2-3-1 ก็ได้

arsenal-invincible-forward

เนื่องจากกองหน้าของทีมในตอนนั้น เดนนิส เบิร์กแคมป์ สามารถเล่นตำแหน่ง หมายเลข 10 ได้ โดยเป็นการเล่นระหว่างกองกลางและกองหน้าของทีม แม้จะอยู่ในช่วงท้ายของอาชีพค้าแข้งของเขา แต่ก็ยังเป็นกำลังหลักสำคัญในทีมชุดนี้ได้อย่างดี

และยังมี เธียร์รี อองรี  และ โรแบร์ ปิแรส ปีกพรสวรรค์คอยช่วยทำเกมรุก โดยในกองกลางตัวคุมจังหวะมี ปาทริค วิเอร่า เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนทีม โดยมี เฟรดดี้ ลุงเบิร์ก กับ กิลแบร์โต้ ซิลวา คอยช่วยเหลือในแดนกลาง

arsenal-invincible-midfield

สิ่งสำคัญมากในการคว้าแชมป์ของทีมส่วนใหญ่ที่จะต้องมีก็คือ แนวรับที่แข็งแกร่ง โดยในฤดูกาลนั้น ทีมอาร์เซน่อลแข่งแกร่งมากในเกมรับ โดยพวกเขาเสียไปเพียง 26 ลูก ซึ่งแนวรับสุดสำคัญนี้ประกอบไปด้วย โซล แคมป์เบล และ โคโร ตูเร่ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างมาก มีทั้งความแข่งแกร่ง ความรวดเร็ว และการเข้าสกัดบอลที่แม่นยำ

และคู่ฟูลแบ็คสองฝั่ง แอชลีย์ โคล  และ โลร็อง เอตาเม ที่มีพลังเต็มเปี่ยมวิ่งไม่มีหมด และผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติเยอรมันที่เพิ่งย้ายเข้ามา เยนส์ เลมัน ด้วยตำแหน่งผู้เล่นในตอนนั้น อาร์เซน่อลเรียกว่าแข่งแกร่งทุกจุดจริงๆ

arsenal-invincible-back

แต่ไม่ใช่แค่คุณภาพของผู้เล่นเท่านั้นที่ทำให้เกิดแชมป์ไร้พ่าย เพราะที่ขาดไม่ได้คือ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมสมองเพชร เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการวางแผนแนวทางการเล่นให้กับทีมอาร์เซน่อล ตั้งแต่เวนเกอร์เข้ามาทำทีม เขาเปลี่ยนอาร์เซน่อล ไปอย่างมากด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นเอนเตอร์เทนคนดูโดยการเน้นแนวรุกให้บุกตลอดเวลา จนไปถึงเรื่องการฝึกซ้อม

และที่สำคัญควบคุมอาหารสำหรับนักเตะของทีมอีกด้วย โดยเป็นการห้ามกินอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และด้วยการห้ามดื่มแอลกอฮอล์นี่เอง ก็เป็นข่าวตามหน้า ข่าวกีฬา ว่าเวนเกอร์ ถึงกับสั่งแบน อดีตกัปตันทีม โทนี อดัมส์

หลังพบว่าอดีตกัปตันทีมรายนี้ เป็นโรคติดแอลกอฮอล์ แต่ด้วยความเข้มงวดของเวนเกอร์นั้น ก็ช่วยให้อดีตกัปตันทีมรายนี้ คืนฟอร์มและเล่นฟุตบอลต่อได้อีกหลายปี  แม้กระทั่งออกกฎห้ามนักเตะสูบบุหรี่อีกด้วย

arsenal-invincible-manchester-united

ในฤดูกาลนั้น เกมที่สำคัญและเป็นที่พูดถึงมาตลอด คือเกม แบทเทิล ออฟ โอลด์แทรฟฟอร์ด (Battle of Old Trafford) ซึ่งเป็นเกมสำคัญแห่งยุคเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นการแข่งขันกันของคู่แข่งแย่งแชมป์ในยุคนั้นโดยอาร์เซน่อล ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกโดยการออกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด

และในเกมนั้นทั้งสองทีมก็ขับเคี่ยว เล่นกันไปตามเกมโดยปกติ ตามแทคติคที่แต่ละทีมจัดมา จนมาถึงใน 10 นาทีสุดท้ายของเกม เกมก็ดุเดือดขึ้นมา และเดือดขึ้นสุดในนาทีสุดท้ายของเกม เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลูกจุดโทษ

แต่อย่างไรก็ตาม รุด ฟาน นิสเตอรอย ซัดบอลชนคานสนั่น สร้างความดีใจให้กับผู้เล่นทีมอาร์เซน่อล จนเป็นเหตุความวุ่นวาย ในสนาม และลามไปจนถึงหลังเกมจบอีกด้วย จนเอฟเอ ต้องลงโทษปรับ  ละแบน ทั้งผู้เล่นและสโมสรเลยทีเดียว

arsenal-invincible-mikel-arteta

และในฤดูกาลนี้ มิเกล อาร์เต้ตา กำลังพาทีมอาร์เซน่อลทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม โดยการนำเป็นจ่าฝูง ใน ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ในตอนนี้จน ข่าว กีฬา วัน นี้ ต่างนำไปเปรียบเทียบกับยุคไร้พ่ายเลยทีเดียว

แต่ในความเป็นจริงแล้วคงไม่สามารถที่จะนำไปเปรียบเทียบกันได้ เพราะด้วยความเข้มข้นของเกม รูปแบบวิธีการเล่น รวมไปถึงกฎต่าง ๆ และ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยตัดสิน (VAR )

ยังไงก็ตามแฟนบอลทีมอาร์เซน่อลคงต้องมาดูกันว่า อาร์เซน่อลในมือผู้จัดการทีม อาร์เตต้า นั้น จะสามารถพาทีมคว้าแชมป์แบบไร้พ่าย ตามรอยชุด invincible ได้อีกครั้งหรือไม่

เรียบเรียงข้อมูลโดย : zumroad.com

เว็บไซต์ ZumRoad ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว