"ดิ เอ็กซ์เพรส" สื่ออังกฤษรายงานหลังเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในศึก "แดงเดือด" ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยเกมนี้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บุกมาถล่มยัดเยียดความปราชัยให้กับเจ้าบ้าน "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0 - 5
เกมนี้ ลิเวอร์พูล เหนือกว่าและบุกปูพรมใส่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างชัดเจน โดยซัดไป 2 ประตูตั้งแต่ช่วง 13 นาทีแรก โดย นาบี เกอิต้า, ดิโอโก้ โชต้า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำเพิ่มอีก 2 ประตูในครึ่งแรก และซัดอีก 1 ประตูเป็นแฮตทริกในช่วงต้นครึ่งหลัง
จากสถานการณ์ที่ลิเวอร์พูลบุกมาถล่มประตูได้ถึง 5 ประตูในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งถือว่าได้สร้างความอับอายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอย่างมาก และโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมได้อยู่ภายใต้ความกดดัน และแสดงออกอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องการรักษาตำแหน่งเก้าอี้กุนซือ และการจัดทัพลงสนามของทีม ที่เมื่อกล้องจับภาพสีหน้าเศร้าของเค้าได้ เพราะเขากำลังเผชิญกับความโกรธแค้นของแฟนบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพักครึ่ง หลังจากที่บรรดาแฟน ๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำนวนมากเดินออกจากสนาม
ส่วนความโดดเด่นในเกมนี้อยู่ที่สตาร์ทีมชาติอิยิปต์ของลิเวอร์พูล โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าวัย 29 ปี ที่ถือเป็นคนที่สร้างความกดดันให้กับ "ปิศาจแดง" เป็นอย่างมาก ซึ่งในเกมนี้ซาลาห์สามารถทำได้ถึง 3 ประตู และเป็นการทำประตูช่วยทีม "หงส์แดง" เป็นเกมที่ 10 ติดต่อกัน และเป็นประตูที่ 107 ในการเป็นผู้เล่นจากทวีปแอฟริกาที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดแซงหน้า ดิดิเยร์ ดร็อกบา ตำนานกองหน้าของเชลซี ที่เคยทำไว้ 104 ประตู นอกจากนี้ยังสร้างสถิติเป็นนักเตะคนแรกของ ลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้ 3 เกมติดต่อกัน
สำหรับชัยชนะในนัดนี้ส่งผลให้ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของตาราง ตามหลัง เชลซีจ่าฝูง 1 คะแนน ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร่วงลงมาอยู่อันดับ 7 มี 14 คะแนน
ที่มา : BBC
