"อาร์เซน่อล" ผู้เล่นที่ยังคงเป็นรอง "ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์"

"อาร์เซน่อล" ผู้เล่นที่ยังคงเป็นรอง "ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์"

ทีม ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซน่อล ยังต้องรอลุ้นอันดับสี่ของตารางพรีเมียร์ต่อไป หลังปิดจ๊อบไม่สำเร็จบุกไปพ่าย ‘ไก่เดือยทอง’ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ คาสนาม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม แบบกระจุยกระจาย 3-0 ในศึกลอนดอนดาร์บี้ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2022 ซึ่งถ้าหากอาร์เซน่อลสามารถเอาชนะสเปอร์ได้ในนัดนี้ ก็จะยึดตำแหน่งท็อปโฟร์ไปแบบสวยๆ โดยไม่จำเป็นต้องไปลุ้นผลการแข่งขันในอีกสองนัดสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของทัพปืนใหญ่ ถือไพ่เหนือกว่าเล็กน้อย เนื่องจากมีแต้มนำทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ อยู่หนึ่งแต้ม โดยศึกนัดนี้นอกจากจะช่วงชิงกันเกาะอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนแล้ว ก็ต้องมาตามลุ้นกันต่อว่า ทีมดังจากลอนดอนทีมไหนจะได้ตีตั๋วไปชิงถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า

arsenal-stands-2021-22

กีฬาวันนี้ จะพาไปย้อนดูเรื่องราวน่าสนใจที่เกิดขึ้นในเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง อาร์เซน่อล vs สเปอร์ส เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา เริ่มต้นด้วยทีมเยือนเสียผู้เล่นไปอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องมาจากความพยายามเล่นนอกเกมของ ร็อบ โฮลดิ้ง ที่ปะทะกับ ซน ฮึง มิน จนกลายเป็นใบเหลืองใบที่สองตั้งแต่นาทีที่ 33 จนถูกผู้ตัดสินชูใบแดงสแลงใจไล่ออกจากสนามไป 

arsenal-huddle

โดยความปราชัยของอาร์เซน่อล ที่พลาดท่าเสียทีให้ สเปอร์ส แบบเละเทะถึง 3-0 จุดเริ่มต้นก็มาจากเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า อาร์เซน่อล ผู้เล่น 10 คน และรูปเกมหลังจากนั้นเสียหายอย่างหนัก จากการถูกขุนกำลังไก่เดือยทองวิ่งเพรสโจมตีแบบลืมตาย แม้ว่าทีมเยือนจะขึ้นนำ 1-0 อยู่แล้วก็ตาม 

arsenal-players-2021-22

ซึ่งดูเหมือนการที่ผู้เล่นได้ใบแดงจะเป็นปัญหาใหญ่อย่างต่อเนื่องสำหรับ มิเกล อาร์เตต้า โดย ข่าวกีฬา ระบุสถิติว่า นัดนี้ก็นับเป็นใบแดงใบที่ 13 เข้าไปแล้ว ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ ‘เดอะ กันเนอร์ส’

arsenal-players-celebration-2

นับตั้งแต่เจ้าตัวเข้ามาคุมทีมเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2019 ยิ่งไปกว่านั้น สถิติใบแดงของอาร์เซน่อลในยุค อาร์เตต้า ยังนับเป็นสถิติสูงสุดทิ้งห่างทีมที่ได้ใบแดงเป็นอันดับสองอย่าง ไบรท์ตัน อยู่ถึง 5 ใบ (ไบรท์ตัน 8 ใบ)

กีฬา วัน นี้ จากเกมพรีเมียร์ลีกนัดดังกล่าว ยังกลายเป็นแมตช์หยุดโลกของ ซน ฮึง มิน นักเตะสัญชาติเกาหลีใต้ หัวหอกคนสำคัญของสเปอร์ส ซึ่งเขากลายเป็นผู้เล่นชาวเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีก ด้วยสถิติ 21 ประตู ตามหลัง โม ซาลาห์ สตาร์ทีม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล อยู่แค่ประตูเดียวเท่านั้น 

และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ 21 ประตูทั้งหมดของดาวเตะจากดินแดนโสมขาวรายนี้ ไม่มีประตูจากจุดโทษมาเกี่ยวข้องเลย ซึ่งก็ส่งให้ผลงานของเขาเทียบเท่ากับ แกเร็ธ เบล อดีตสตาร์ดังของสโมสร ที่เคยสร้างสถิติยิงได้มากที่สุด 21 ประตู ในฤดูกาล 2012/13 โดยไม่มีลูกโทษเข้ามาเกี่ยวข้องเช่นกัน หากนับรวมจนถึงตอนนี้ 

ซน พังประตูให้ไก่เดือยทองไปแล้ว 91 ประตู ขยับขึ้นมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดในอันดับสามร่วมกับ เจอร์เมน เดโฟ และ ร็อบบี้ คีน ในพรีเมียร์ลีกของสโมสร โดยอันดับหนึ่งเป็นของ แฮร์รี่ เคน กับสถิติ 181 ประตู และอันดับสองคือ 97 ประตูจาก เท็ดดี้ เชอริ่งแฮม

tottenham-player-of-the-year-

นอกจากนี้ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมชาติอังกฤษ เจ้าของดาวซัลโวสูงสุดของศึกนอร์ธลอนดอนดาร์บี้ก็ไม่พลาดที่จะเพิ่มสถิติของตัวเองในเกมนี้ ด้วยการเพิ่มจำนวนประตูที่ยิงใส่ อาร์เซ่น่อล ได้เป็น 13 ลูก จากการเจอหน้ากัน 17 นัดในทุกรายการที่ผ่านมา 

และหากนับรวมแมตช์ที่เจอกับทีมอื่น ๆ จากลอนดอนแล้ว แฮรี่ เคน ได้สร้างสถิติพังประตูได้เพิ่มเป็น 40 ประตู ตามหลังตำนานของปืนใหญ่อย่าง เธียร์รี่ อองรี เจ้าของอันดับหนึ่งในเกมลอนดอนดาร์บี้แค่ 3 ประตูเท่านั้น

kane-son-tottenham-hot-spur-premier-league

จากสื่อ ข่าว กีฬา เท่าที่ผ่านมา เราจะเห็นว่า อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาลี ผู้กุมบังเหียนของสเปอร์ส มีสถิติที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนักในยามที่ทัพไก่เดือยทองต้องปะทะกับอาร์เซน่อล จากผลงานก่อนหน้านี้ 8 นัด คอนเต้ คุมทีมเอาชนะไอ้ปืนใหญ่ได้แค่นัดเดียวเท่านั้น 

ซึ่งก็ต้องย้อนไปถึงสมัยที่เจ้าตัวกุมบังเหียนให้กับเชลซีทั้งสิ้น จนกระทั่งเกมล่าสุดที่เปิดบ้านคว้าชัยเหนือทีมดังจากแห่งเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็ทำให้เจ้าตัวได้เฮในเกมนัดสำคัญนี้จนได้ และก็ถือเป็นผลงานที่ก้าวกระโดดอย่างมาก เพราะช่วงที่เขาเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมให้กับสโมสร ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส พวกเขายังรั้งอยู่ในอันดับ 9 ของตารางคะแนน แถมยังไร้วี่แววว่าจะผงาดขึ้นถึงจุดนี้ได้

tottenham-hotspur-premier-league

อย่างไรก็ดี ข่าว กีฬา วัน นี้ โปรแกรมสองนัดสุดท้ายของทั้งคู่ ก็เรียกได้ว่ามีดีมีเสียคนละแบบ โดยสามารถรับชม อาร์เซน่อล สด ที่มีคิวบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ 

หลังจากนั้นจะได้เปิดสนาม เอมิเรตส์สเตเดียม เล่นในบ้านนัดสุดท้ายเจอกับทีม ‘ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน’ เอฟเวอร์ตัน ในวันที่ 22 พฤษภาคม โดยลูกทีมของ แฟรงก์ แลมพาร์ด ก็คงจะเล่นกันแบบสู้ตายถวายชีวิตเพื่อเอาตัวรอดให้ได้

ส่วนทางด้านของ สเปอร์ส จะเป็นฝ่ายเปิดบ้านก่อนเพื่อต้อนรับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์ ในวันที่ 15 พฤษภาคม ก่อนที่จะบุกไปลุยกับ นอริช ในวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งงานหนักก็น่าจะเป็นการเจอกับ ‘เดอะ คลาเร็ตส์’ ที่ยังต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นอีกราย โดยถ้าหากสเปอร์สไม่สามารถคว้าสามแต้มสยบเบิร์นลีย์ได้ ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้อาร์เซน่อลลุ้นท้อปโฟร์ได้แบบสบายๆ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : zumroad.com

เว็บไซต์ ZumRoad ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว