เชลซีสร้างผลงานที่น่าประทับใจในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อพวกเขาเปิดบ้านถล่มอาแจ็กซ์ 5-1 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในรอบลีก เฟส นัดที่ 3 โดยเกมนี้มีหลายจังหวะที่เปลี่ยนผลการแข่งขัน รวมถึงการเล่นที่โดดเด่นของผู้เล่นแนวรุก.
เกมเริ่มต้นขึ้นได้เพียง 16 นาที อาแจ็กซ์ก็ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อเคนเน็ธ เทย์เลอร์ทำฟาวล์ฟากุนโด้ บูโอนาน็อตเต้ ทำให้ผู้ตัดสินต้องควักใบแดงไล่เขาออกจากสนาม หลังจากผ่านการตรวจสอบ VAR เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม
ตามมาด้วยฟรีคิกจากระยะ 40 หลา เชลซีได้โอกาสทองเมื่อเวสลี่ย์ โฟฟาน่าโหม่งตั้งเข้ากลางให้มาร์ก กิว แปบอลไม่เต็มเท้า แต่บอลไปกระดอนพื้นตุงตาข่าย ทำให้เชลซีนำ 1-0 หลังจากนั้น เริ่มเคาะเครื่องได้ในนาทีที่ 27 เมื่อเจมี่ กิทเท่นส์จ่ายจากด้านซ้ายไปทางขวาให้มอยเซส ไกเซโด้ ซัดเต็มแรงจากหน้าเขต บอลแฉลบโยซิป ซูตาโล่ทำให้เชลซีนำห่าง 2-0
อาแจ็กซ์พยายามกลับเข้าสู่เกมอย่างรวดเร็ว โดยในนาทีที่ 31 โตซิน อาดาราบิโอโย่ ถูกตัดสินให้ทำฟาวล์ราอูล โมโร่ในเขตโทษ ส่งผลให้ได้จุดโทษ เวาท์ เว็กฮอร์สท์สังหารไปทางขวามือ โรเบิร์ต ซานเชซ แม้จะพุ่งไปถูกทาง แต่บอลก็ยังคงเข้าประตู อาแจ็กซ์ไล่มาเป็น 1-2
แต่สถานการณ์กลับไม่เป็นใจสำหรับอาแจ็กซ์ เมื่อในนาทีที่ 45 เชลซีได้จุดโทษบ้าง หลังเว็กฮอร์สท์ทำฟาวล์เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซในเขตโทษ แข้งอาร์เจนไตน์ก็รับหน้าที่สังหารเอง โดยยิงไปทางขวา ส่งผลให้เชลซีหนีเป็น 3-1
ไม่เพียงเท่านี้ ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+6 ยูรี่ บาส ถูกตัดสินให้ทำฟาวล์เอสเตเวาในกรอบเขตโทษเช่นกัน เชลซีได้โอกาสอีกครั้งและเฟร์นานเดซจ่ายให้เอสเตเวายิงประตูด้วยซ้าย ส่งผลให้ทีมเจ้าถิ่นปิดท้ายครึ่งแรกด้วยสกอร์ 4-1
เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซียังคงบดขยี้อาแจ็กซ์ต่อไป และในนาทีที่ 48 ไทริค จอร์จ เพิ่มสกอร์ให้เชลซี 5-1 สถานการณ์ดีขึ้นส่งผลให้ชัยชนะในเกมนี้น่าพอใจสำหรับแฟนๆ เชลซี
การชนะครั้งนี้ทำให้เชลซีมี 6 คะแนนจาก 3 นัดแรกในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่อาแจ็กซ์ยังไม่สามารถเก็บแต้มได้เลยในรอบนี้
สำหรับเกมต่อไป เชลซีจะไปเยือนคาราบักในวันที่ 5 พฤศจิกายน และอาแจ็กซ์ก็จะเปิดบ้านต้อนรับกาลาตาซารายในวันเดียวกัน