ฆาเบียร์ เตบาส ประธานลา ลีกา เปิดเผยว่ารัฐบาลอังกฤษมีแนวโน้มที่จะเข้ามาควบคุมการใช้จ่ายของพรีเมียร์ลีกในอนาคตมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของกฎการกำไรและขาดทุน หลังจากที่พรีเมียร์ลีกมีการใช้จ่ายในการเสริมทัพนักเตะไปกว่า 1,000 ล้านยูโรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้อมูลนี้ได้มาจากรายงานของ 'เดียรีโอ อาส' ที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เตบาสได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างการใช้จ่ายในพรีเมียร์ลีกและลา ลีกา โดยกล่าวว่าเขาเห็นด้วยกับโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์ถึงการใช้จ่ายที่สูงของพรีเมียร์ลีก แต่กลับไม่แน่ใจว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ “พวกเขาจ่ายเงินจำนวนมากให้นักเตะที่ลงเล่นเพียงแค่ 6 เกม และไม่ได้สร้างผลกระทบที่สำคัญ” เตบาสกล่าว โดยเสริมว่าการแข่งขันในยุโรปลา ลีกาได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานได้ดีไม่แพ้พรีเมียร์ลีก
“เรายินดีในระดับการแข่งขันของเรา แม้ว่าในบางปีพรีเมียร์ลีกจะเหนือกว่าเราในแง่ของหนี้สินและกำลังการเงิน แต่โดยรวมแล้วเรามีความสุข” เตบาสกล่าวเพิ่มเติม โดยเขายังยกประเด็นเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลอังกฤษที่อาจเข้ามาควบคุมการใช้จ่ายอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพราะเห็นว่าแนวทางการใช้จ่ายที่ไม่ยั่งยืนในพรีเมียร์ลีกในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
“รัฐบาลอังกฤษต้องวางระบบกำกับดูแล ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะต้องควบคุมเรื่องนี้อย่างจริงจัง พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้การขาดทุนกินนอนในวงการฟุตบอลได้ตลอดเวลา” เขากล่าวต่อไป ว่าไม่เพียงแต่เตบาสเอง รัฐสภาอังกฤษก็รับรู้ถึงปัญหานี้ “เกรงว่าหากไม่ควบคุมสถานการณ์แบบนี้ไว้ อาจจะเกิดการขาดทุนถึงพันล้านปอนด์ทุกปี”
การมองการณ์ไกลของเตบาสในฐานะผู้นำลีกที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการมีการควบคุมการใช้จ่ายในฟุตบอล ถ้าหากพรีเมียร์ลีกยังคงใช้จ่ายอย่างไม่มีระเบียบ มันอาจส่งผลต่อภาพรวมของวงการบอลโดยรวมในอนาคต ท่ามกลางการแข่งขันที่ไม่หยุดหย่อนของลีกยุโรปอื่น ๆ ที่ยังคงให้ความสำคัญกับการปรับสมดุลความสามารถทางการเงิน
การวิเคราะห์การใช้จ่ายของพรีเมียร์ลีกในอนาคตอาจช่วยให้แฟนฟุตบอลทั้งหลายได้เข้าใจถึงกลยุทธ์และทิศทางการพัฒนาของลีก พร้อมทั้งรอคอยการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตในการจัดการทางการเงินภายในโลกฟุตบอล โดยเป็นการวิเคราะห์ที่ทั้งน่าสนใจและมีความสำคัญอย่างยิ่งอย่างแน่นอน