ในการแข่งขันที่ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม บอร์นมัธสามารถเรียกเสียงเฮจากแฟนๆ ได้ในช่วงต้นเกมที่เดวิด บรู๊คส์พยายามทำประตูในนาทีที่ 15 แต่ไม่มีดวงเมื่อเขาถูกตัดสินล้ำหน้า และการตรวจสอบของ VAR ยืนยันคำตัดสินเดิม ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 0-0 ในช่วงครึ่งแรก อย่างไรก็ตาม เกมนี้กลับจบลงด้วยความจืดชืดโดยไม่มีประตูเกิดขึ้นแล้วยังขาดโอกาสในการทำประตูที่น่าตื่นเต้นจากทั้งสองทีม
เข้าสู่ครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ลได้เรียกร้องจุดโทษจากการฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ซึ่งนับว่าเป็นจังหวะที่ทีมเยือนอาจหวังที่จะได้ประตู แต่จังหวะที่ นิค โวลเทอมาเดอ ถูกดึงเสื้อและล้มลงนั้น ไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ และดูเหมือนจะล้มง่ายไปหน่อย ส่งผลให้ผู้ตัดสินปฏิเสธการให้จุดโทษ
หลังจากนั้นทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนตัวเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเกม โดยนิวคาสเซิ่ลส่ง อันโธนี่ เอลันก้า และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ลงแทน เจค็อบ เมอร์ฟี่ และ โจ วิลล็อค ขณะที่บอร์นมัธได้เปลี่ยนเดวิด บรู๊คส์ และ อเล็กซ์ สกอตต์ ออก และส่ง จัสติน ไคลเวิร์ต กับ ไรอัน คริสตี้ ลงสนามในนาทีที่ 63
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1 บอร์นมัธกลับมามีลุ้นจากฟรีคิกที่ทำให้แฟนๆ มีหวังอีกครั้ง เมื่อจัสติน ไคลเวิร์ต ได้กดบอลด้วยเท้าขวาเข้าหาประตู แต่นิค โพ๊ป ผู้รักษาประตูของนิวคาสเซิ่ลต้องออกแรงเซฟอย่างหนัก ซึ่งถือเป็นการยิงเข้ากรอบครั้งแรกในครึ่งหลังของทั้งสองทีม
ท้ายที่สุดแล้ว ถือว่าเกมนี้ บอร์นมัธ กับ นิวคาสเซิ่ล จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แบบไม่มีทีมไหนสมควรจะเป็นผู้ชนะ การแสดงในสนามของทั้งสองทีมทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวัง เนื่องจากขาดโอกาสในการทำประตูที่น่าสนใจ ดังนั้นต้องคอยติดตามการเดินหน้าของทั้งสองทีมในอนาคตว่าจะสามารถปรับปรุงฟอร์มการเล่นได้อย่างไรต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม บอร์นมัธ : ยอร์เย่ เปโตรวิช - อเล็กซ์ ฆีเมเนซ, บาโฟเด้ เดียกีเต้, มาร์กอส เซเนซี่, อาเดรียง ตรุฟแฟร์ - ไทเลอร์ อดัมส์, อเล็กซ์ สกอตต์ - อองตวน เซเมนโย่, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, เดวิด บรู๊คส์ - เอวานิลซอน และ นิวคาสเซิ่ล : นิค โพ๊ป - มาลิค เธียว, สเวน บ็อทมัน, แดน เบิร์น - ทีโน่ ลิฟราเมนโต้, ซานโดร โตนาลี่, ลูอิส ไมลี่ย์, โจ วิลล็อค, ลูอิส ฮอลล์ - เจค็อบ เมอร์ฟี่, นิค โวลเทอมาเดอ
ในการวิเคราะห์เกมนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟุตบอลโลกและการแข่งขันต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์กีฬาเช่น ESPN หรือ BBC Sports ที่มีข่าวสารและวิเคราะห์แมตช์ที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง