Monster Hunter Rise: Sunbreak โหดขึ้น แต่มีความสมดุลให้ทุกคนได้เล่นสนุกขึ้นอย่างแน่นอน

Monster Hunter Rise: Sunbreak โหดขึ้น แต่มีความสมดุลให้ทุกคนได้เล่นสนุกขึ้นอย่างแน่นอน

Monster Hunter Rise เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นของหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของ Capcom อีกไม่นานเกมออนไลน์แนว Action-RPG กำลังจะมีภาคเสริมใหม่เข้ามา นั่นคือ Monster Hunter Rise: Sunbreak ซึ่งในช่วงนี้ก็มีตัวอย่างและข้อมูลต่างๆของเกมถูกปล่อยมาค่อนข้างมาก และวันนี้เราจะมาฟังมุมมองจากคนเล่นเกมในระดับทั่วไปคนหนึ่งในทีมงานของ EuroGamer กันครับว่ามีความเห็นต่อภาคเสริมใหม่ของเกมนี้อย่างไร

“หลังจากใช้เวลาในเกม Monster Hunter ไปกว่า 80 ชั่วโมงตั้งแต่มีการปล่อยภาคที่ 4 บนเครื่อง 3DS ก็พอจะพูดได้ว่าผมคือแฟนตัวยงคนหนึ่งของเกม มีความสุขที่เข้าร่วมในภารกิจหลักมากพอๆกับที่ได้ทำภารกิจระดับสูง แต่พอภาคเสริมที่มีการเพิ่ม Master Rank เข้ามา ก็ต้องยอมรับว่าตัวเกมค่อนข้างจะสร้างความลำบากให้ผมไม่น้อยเลยทีเดียว”

“ในภาคต่อมา ผมยังคงชอบ Monster Hunter World แต่ก็ไม่อายที่จะยอมรับว่าส่วนเสริม Iceborne นั้นสร้างลำบากให้ผมอีกครั้ง และสำหรับ Sunbreak ส่วนเสริมใหม่ที่กำลังจะเข้ามาใน Monster Hunter Rise ก็ได้สร้างความกังวลใจให้กับผมอยู่บ้าง เพราะมันคือภาคเสริมที่เทียบเท่ากับ G-Rank หรือ Ultimate ของเกมในภาคก่อนหน้านี้"

“สำหรับสิ่งใหม่ๆในภาคเสริม Sunbreak นี้มีการแนะนำมอนสเตอร์ใหม่ สถานที่ใหม่ และที่สำคัญที่สุดคือ Master Rank ที่ถูกปรับขึ้นมาพร้อมกับความท้าทายใหม่ๆ แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ในภาคเสริม Sunbreak นี้มีอะไรหลายๆอย่างที่ทำออกมาได้กลมกล่อมยิ่งขึ้นสำหรับผมและผู้เล่นหลายๆคนอยู่บ้าง”

mhr-sunbreak-combat

“อันดับแรกว่าด้วยเรื่องของสิ่งใหม่ๆ ในภาค Sunbreak จะมีศูนย์กลางของเมืองใหม่ โดย Elgado เปลี่ยนเป็น Kamura ในขณะที่ Citadel เป็นพื้นที่ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ และมันยังคงเป็นพื้นที่เดียวที่ได้รับการเปิดเผยมาจนถึงตอนนี้ โดย Citadel นี้มีสเกลที่เทียบเท่ากับแผนที่ขนาดใหญ่ของภาค Monster Hunter World แต่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเห็นได้ชัดเจนในครั้งนี้ก็คือความสวยงามที่ถูกออกมาได้ดีกว่าเดิม”

“รูปลักษณ์ของ Monster Hunter Rise ถูกออกแบบโดยได้รับอิทธิพลจากตำนานของญี่ปุ่นในยุคกลาง แผนที่ส่วนใหญ่รายล้อมไปด้วยต้นไผ่และดอกไม้ที่เบ่งบาน ในขณะที่เพลงประกอบก็ได้รับการเติมเต็มด้วยเสียงของขลุ่ยและพิณ แสงแดดทอดเงาของสิ่งต่างๆไปทางทิศตะวันตก มีการออกแบบปราสาทและหนองน้ำของแผนที่ Citadel ได้อย่างมีเอกลักษณ์และชัดเจนบนฉากหลังที่มีพระอาทิตย์ตกสีแดงฉาน”

citadel

“มีการปรับแต่งในส่วนของระบบต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นมากพอจนรู้สึกถึงความแตกต่างด้วยระบบที่เรียกว่า Silkbind การเคลื่อนไหวด้วยอาวุธแบบใหม่ๆแต่ละชนิดบวกกับความสามารถในการสลับไปมาระหว่างสกิลได้ในทันที สำหรับรูปแบบการเล่นที่มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้นนี้อาจจะฟังดูยากขึ้นมาบ้าง แต่การที่มีชุดสกิลขึ้นมาให้เห็นว่าสกิลไหนพร้อมใช้งานบ้างบนหน้าจอก็ถือว่าเป็นอะไรที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว”

“อีกหนึ่งเรื่องเล็กๆที่สร้างความแตกต่างอย่างมากสำหรับผู้เล่นที่เอาจริงเอาจังน้อยกว่าคนทั่วไปก็คือการมีเควสต์สำหรับผู้เล่นคนเดียวแบบ Single Player ที่จะสามารถให้ NPC ร่วมต่อสู้เคียงข้างคุณได้เหมือนกับตอนที่ได้เล่นกับเพื่อนเลย”

“สำหรับผม วิธีการเล่นที่ผมใช้ส่วนใหญ่ใน Monster Hunter คือขอความช่วยเหลือจากผู้เล่นที่เก่งๆและเล่นได้ดีกว่ามาช่วยในการทำสิ่งต่างๆที่ผมไม่สามารถทำได้ แต่มันก็เป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความงดงามของ Monster Hunter ออกมาได้ดีที่สุดเช่นกัน อย่างการต่อสู้ร่วมกับคนอื่นในการเจอกับ Seregios ผมถูกมันตบซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ยังคงทนที่จะสู้ต่อไปได้เมื่อรู้ว่ามีใครสักคนอยู่เคียงข้างคุณในยามที่คุณล้มลง และในภาคเสริม Sunbreak นี้ก็จะเป็นอีกภาคเสริมหนึ่งของ Monster Hunter ที่โหดร้าย แต่มันก็มีสมดุลมากพอที่จะให้พวกเราเหล่านักล่าได้สนุกไปกับมันมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน”

Monster Hunter Rise: Sunbreak จะวางจำหน่ายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้บน Nintendo Switch และ PC ครับ

ที่มา: EuroGamer

เว็บไซต์ ZumRoad ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว