ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกและข้อจำกัดด้านอุปทานเป็นอุปสรรคสำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆในตลาดเกมมาเป็นเวลาสองสามปีแล้ว และผลกระทบของปัญหานั้นยังคงอยู่ รวมไปถึง Nintendo ที่มีรายงานว่ายอดขายของเครื่อง Switch อาจจะลดลงตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ตามรายงานที่จาก Nikkei ทาง Nintendo คาดว่ายอดขายของ Hybrid Console Game - Switch จะลดลง 10% ในปีงบประมาณ 2022 โดยเป็นตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านเครื่อง ลดลงจากยอดขายที่ทำเอาไว้ได้ 23 ล้านเครื่องในปีที่แล้ว ส่วนปีก่อนหน้านั้นจะอยู่ที่ 28 ล้านเครื่อง
ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องตลอดจนปัญหาห่วงโซ่อุปทานมีความรุนแรงขึ้นจากการล็อกดาวน์ที่ถูกบังคับใช้ตามมาตรการโควิดในประเทศจีน รวมไปถึงปัญหาความขัดแย้งจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียนั้นส่งผลให้เครื่องเกมคอนโซลขายได้ไม่มากเท่าที่ควร ในขณะที่ตอนนี้ Nintendo เองก็ไม่สามารถผลิตเครื่องได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ในตอนแรกแล้ว หากการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีนยังคงมีอยู่ ยอดขายสำหรับปีงบประมาณนี้อาจลดต่ำลงไปกว่า 20 ล้านก็เป็นได้ครับ
เมื่อต้นปีนี้ทาง Nintendo ได้รายงานว่า Switch มียอดขายรวมมากกว่า 103 ล้านเครื่องทั่วโลก ทำให้กลายเป็นเครื่องเกมออนไลน์ภายในบ้านที่ขายดีที่สุดของบริษัทในปัจจุบัน ส่วนเครื่องที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสองรองลงมาคือ Nintendo DS
Shuntaro Furukawa ประธานของบริษัทกล่าวว่า Nintendo Switch นั้นยังอยู่ในช่วงกลางวงจรเท่านั้น ดังนั้นบริษัทญี่ปุ่นจึงคาดหวังอย่างเต็มที่ว่าโมเมนตัมของการขายจะยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง ส่วนปัญหาอุปทานที่ยังเกิดขึ้นนี้จะยาวนานและส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องมาติดตามกันต่อไปครับ
ที่มา: Gamingbolt