หากจะพูดถึง Casio G-Shock สำหรับบางท่านก็อาจจะไม่ต้องอธิบายอะไรกันเพิ่มเติมอีก เพราะมันคือหนึ่งโมเดลนาฬิกาที่มีความโดดเด่นที่สุดในโลก ไม่ว่าจะทางด้านประสิทธิภาพ ความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และคุณภาพของเนื้องาน ปัจจุบัน Casio G-Shock ได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาข้อมือยอดนิยม ทั้งแฟชั่นหรือการใช้งาน และเป็นหนึ่งในนาฬิกาข้อมือที่ขายดีที่สุดในโลก
เนื่องจากที่ตัวนาฬิกาได้รับการความนิยมอย่างมาก ทาง Casio จึงได้มีเปิดตัวโมเดลและการทำซ้ำปล่อยสีใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการ ส่งผลให้ทุกวันนี้เรามีนาฬิกา G-Shock ให้เลือกหากันอย่างมากมายในท้องตลาดโดยพัฒนาขึ้นตามวัตถุประสงค์และสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
ประวัติความเป็นมาของ G-Shock
ประวัติของ G-Shock นั้นเล่าย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1981 เมื่อ Kikuo Ibe หัวหน้าฝ่ายออกแบบนาฬิกาได้เกิดแนวคิดที่จะสร้างนาฬิกาที่ทนทานต่อการตกและไม่แตกหัก โดยแนวคิดนี้ขึ้นหลังจากที่เขาทำนาฬิกาตกในระหว่างการทำงานจนพังซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติเนื่องจากคุณลักษณะที่ละเอียดอ่อนตามการเคลื่อนไหวของนาฬิกาและ “G-Shock” ก็มาจากแนวคิดในการทนต่อแรงกระแทกที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงเมื่อทำหล่น หรือ ”Gravity Shock” นั่นเอง
โดยจุดเริ่มต้นที่นาฬิกาต้องมีแบ่งออกเป็นสามอย่าง คือต้องสามารถทนต่อการตกจากที่สูงได้ 10 เมตร ทนแรงดันน้ำ 10 ATM และสุดท้ายคืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ต้องมีอย่างน้อย 10 ปี กลุ่มทีมที่สนับสนุนแนวคิดของ Ibe ก็ได้เริ่มต้นขึ้น และนาฬิกา G-Shock รุ่นแรกที่ออกมาได้สำเร็จก็คือ G-Shock DW-5000C
คุณลักษณะสำคัญๆ ที่ G-Shock สร้างขึ้นมานั้น ตามแนวคิดหลักของพวกเขาก็คือตัวนาฬิกาจะต้องรับมือได้กับทุกสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย อย่างการตก การกระแทก และอายุการใช้งานที่ยาวนาน สิ่งที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับ G-Shock คือความจริงที่ว่าโดยทั่วไปแล้วมันคือนาฬิกาดิจิตอลที่ดูมีความสปอร์ต แต่ก็มาพร้อมกับอะไรที่ใหญ่โตและเทอะทะ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็สามารถสร้างตัวเองให้กลายเป็นนาฬิกาข้อมือที่ได้รับความนิยม ได้รับการยกย่องและชื่นชมจากทั่วโลกได้ในที่สุด
คุ้มไหม? กับการซื้อนาฬิกา G-Shock สักเรือน
การจะมองว่าอะไรคือความคุ้มค่านั้น ก็คงจะต้องถกเถียงกันไปยาวๆ แต่หากจะมองในภาพรวมก็คือ G-Shock นั้นเรียกได้ว่าเป็นนาฬิกาที่ยอดเยี่ยมที่คุ้มค่ากับราคาและการใช้งาน ถ้าหากคุณกำลังมองหานาฬิกาที่มีความทนทาน และเชื่อถือได้ในราคาที่เหมาะสม Casio G-Shock นั้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน
นาวิกโยธินใส่ G-Shock รุ่นไหน
G-Shock เป็นนาฬิกาที่ได้รับความนิยมในหมู่นาวิกโยธิน โดยเฉพาะ G-Shock DW-6600 นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ราวกับว่าโมเดล DW-6600 นั้นถูกออกแบบโดยเฉพาะสำหรับหน่วยซีล และเหตุผลที่พวกเขาเลือกใช้ Casio G-Shock นั้นค่อนข้างชัดเจน มันมีความทนทานและการทำงานที่ยอดเยี่ยมในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยที่เหล่าซีลอาจพบได้ มันมีทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ ทั้งน้ำหนักที่เบา กันน้ำ มีการป้องกันการกระแทกที่ดี ราคาไม่แพง มีความทนทานต่อน้ำได้ลึก 200 เมตร โหมด 24 ชั่วโมง และไฟแบ็คไลท์เพื่อใช้งานในตอนกลางคืน
G-Shock อยู่ได้นานแค่ไหน?
อายุการใช้งานของ Casio G-Shock นั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณสวมใส่และดูแลมันอย่างไร หากมันคือนาฬิกาในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องใช้ออกสนามหรือต้องเผชิญกับแรงกระแทกหรือสภาวะที่รุนแรง นาฬิกา G-Shock นั้นก็มีอายุการใช้งานยาวนานหลายปี แต่ในเมื่อมันเป็นที่รู้กันว่ามันคือหนึ่งในนาฬิกาที่ทนทานที่สุด ดังนั้นนาฬิกา G-Shock ก็จะยังคงใช้งานได้ยาวนานแม้ในสภาวะที่ต้องสมบุกสมบัน
ทั้งนี้ก็จะต้องพิจารณาถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ด้วย เพราะ G-Shock แต่ละรุ่นจะมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว นาฬิกา G-Shock ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่อย่างน้อย 3 ปี และมีหลายรุ่นที่สามารถอยู่ได้นานกว่านั้นมาก G-Shock บางตัวใช้ยังมีฟีเจอร์การใช้พลังงานแสงอาทิตย์และสามารถคงอยู่ตลอดไปหรือจนกว่ามันจะพัง
G-Shock เป็นนาฬิกาที่ทนทานที่สุดหรือเปล่า?
อาจจะไม่สามารถให้คำตอบได้ในส่วนนี้ แต่ที่มั่นใจได้ก็คือ G-Shock เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่ทนทานที่สุดในโลก มีความสำเร็จหลายประการที่ยืนยันได้ว่า G-Shock เป็นนาฬิกาที่ทนทานที่สุดในโลก หนึ่งในนั้นคือสถิติโลกที่บันทึกไว้โดย Guinness จากการทนต่อการถูกรถบรรทุกทับ โดย G-Shock DW-5600 รุ่นที่ถูกที่สุดของแบรนด์นั้นรอดจากการถูกรถบรรทุกขับทับและยังคงเดินต่อไปได้ปกติ ก็คงจะเรียกได้ว่ามันคือนาฬิกาที่ทนที่สุดในโลกอีกเรือนหนึ่งครับ
G-Shock กันน้ำหรือเปล่า?
แน่นอนว่านาฬิกา G-Shock ส่วนใหญ่กันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร นั่นหมายความว่าคุณสามารถไปว่ายน้ำไปพร้อมกับการใสนาฬิกา G-Shock ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ มีนาฬิกา G-Shock บางรุ่นที่สามารถกันน้ำได้ดีกว่านั้น เพราะมาตรฐานของนาฬิกาดำน้ำหลายๆ รุ่นนั้นที่ความลึกอยู่ที่ 300 เมตรไปแล้วครับ
นาฬิกา G-Shock ผลิตขึ้นที่ไหน?
ปัจจุบันนาฬิกา Casio G-Shock ผลิตในญี่ปุ่น ไทย และจีน การผลิตในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จำกัดเฉพาะในโมเดลระดับพรีเมียมและเอ็กซ์คลูซีฟเท่านั้น นาฬิกาที่ผลิตในประเทศจีนมักจะเป็นรุ่นที่ราคาไม่แพงมาก แต่ในช่วงปี 2019 อันเป็นผลมาจากการเก็บภาษี “List 4” ของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งมีผลในวันที่ 1 กันยายน 2019 ทำให้ Casio ต้องเปลี่ยนการผลิตนาฬิกาข้อมือบางรุ่น โดยเฉพาะสำหรับสินค้าที่ส่งไปยังสหรัฐฯ รวมถึง G-Shock จากประเทศจีนมาสู่ประเทศไทยของเรานี่เอง
การเลือกซื้อ Casio G-Shock
ด้วยความที่ G-Shock มีรุ่นต่างๆ ให้เลือกอยู่มากมาย จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหนและควรเลือกรุ่นใด แต่หลักๆ ตามพื้นฐานที่ควรคำนึงถึงก็คือ
ขนาด
อย่างที่คุณเห็นว่านาฬิกา G-Shock มีจำหน่ายในทุกขนาด ตั้งแต่หน้าปัดใหญ่สุดถึง 60 มม. ไล่ขนาดเล็กลงมาและเบาบางกว่า มีทั้งทรงสี่เหลี่ยมและทรงคลาสสิก หากคุณมีข้อมือขนาดเล็กก็ควรจะมองหาทางเลือกที่มีขนาดเล็กกว่า แต่ถ้าไม่เน้นที่น้ำหนักและรูปร่างที่เทอะทะ G-Shock นั้นมีนาฬิกาให้คุณเลือกได้มากมายอย่างแน่นอน
อนาล็อกหรือดิจิทัล
G-Shock สามารถใช้ได้กับจอแสดงผลทั้งแบบแอนะล็อกหรือดิจิทัล สำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน หลายๆ คนมักจะชอบการแสดงผลแบบอนะล็อกมากกว่า เนื่องจากจอส่วนอื่นๆ จะนำไปใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น ส่วนนาฬิกาแบบดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะรวมฟังก์ชันต่างๆ เอาไว้มากกว่าหน้าจอที่มีอนะล็อก แต่ Mudmaster ก็เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของนาฬิกาอะนาล็อกที่เต็มไปด้วยฟังก์ชันต่างๆ เช่นกัน
ฟังก์ชั่น
นาฬิกา G-Shock สามารถบรรจุฟังก์ชันต่างๆ เอาไว้ได้มากมาย ทั้งเครื่องอัลติมิเตอร์ บารอมิเตอร์ เทอร์โมมิเตอร์ ฟังก์ชัน GPS การเชื่อมต่อ Bluetooth และอื่นๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่ายอย่างโหมดจับเวลาและฟังก์ชันพื้นฐานอีกสองสามอย่าง หากคุณเพียงแค่จะใช้มันเพื่อสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ฟังก์ชันก็อาจจะไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่ถ้าเป้าหมายของคุณคือสวมใส่มันเพื่อการเดินป่าหรือตั้งแคมป์ คุณอาจพบฟังก์ชั่นต่างๆ อย่างเครื่องวัดระยะสูงหรือ GPS นั้น สะดวกและใช้งานได้เป็นอย่างดีจริงๆ
การกันน้ำ
ในขณะที่นาฬิกา G-Shock สามารถกันน้ำได้อย่างน้อย 200 ม. การกันน้ำอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นต่างๆ หากคุณต้องการนาฬิกาที่กันน้ำได้จริง คุณอาจต้องการนาฬิกาที่ทนทานต่อน้ำได้ถึง 300 เมตร แต่คนส่วนใหญ่แล้วนั้นการกันน้ำที่ให้มาถึง 200 เมตรนั้นก็ถือว่าเพียงพอแล้วครับ
สไตล์และดีไซน์
นอกจากขนาดแล้ว สไตล์และการออกแบบของนาฬิกายังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย อย่างที่คุณเห็นแล้ว G-Shock ผลิตนาฬิกาออกมาด้วยดีไซน์ที่หลากหลาย โดยบางรุ่นก็อาจมีความสปอร์ตมากกว่ารุ่นอื่นๆ บางรุ่นมีดีไซน์เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส บางรุ่นก็มีดีไซน์และวัสดุที่ให้ความหรูหรามากกว่า อันนี้ก็แล้วมาดูกันต่อว่าดีไซน์แบบใดจาก G-Shock ที่จะเหมาะกับคุณมากที่สุดครับ
ในครั้งต่อไป เราจะมาคุยกันต่อว่าในแต่ละโมเดล มี G-Shock รุ่นไหนน่าใช้ รุ่นไหนสวย รุ่นไหนได้รับความนิยม และรุ่นไหนดีไม่ดีแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ