เปิดตัว Nissan Sentra รุ่น 2026: การออกแบบใหม่ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย

เปิดตัว Nissan Sentra รุ่น 2026: การออกแบบใหม่ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย

Nissan ยืนยันแล้วว่า Sentra จะเป็นโมเดลพื้นฐานสำหรับแบรนด์ หลังจากที่คาดการณ์ว่า Versa จะถูกยกเลิกการผลิตหลังจากปี 2025 โดย Sentra จะได้รับการออกแบบใหม่ในปี 2026 ซึ่งนับเป็นการปรับปรุงที่จำเป็นเพื่อแข่งขันในตลาดรถยนต์ที่มีราคาเข้าถึงได้ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในขณะที่ Sentra ยังคงยึดมั่นในตำแหน่งรถยนต์ที่มีความสามารถและราคาที่เข้าถึงได้ เป็นรุ่นที่น่าสนใจสำหรับผู้ซื้อที่มองหารถยนต์ใหม่ หากไม่ต้องการลงทุนสูงเกินไป

สำหรับระบบเครื่องยนต์ใน Sentra รุ่น 2026 นั้น ยังเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ ที่ให้กำลัง 149 แรงม้า และ 146 ฟุต-ปอนด์ ที่มีการส่งกำลังไปยังล้อหน้าผ่านระบบเกียร์ CVT (แบบต่อเนื่อง) ซึ่งวิ่งได้ดี และประหยัด น้ำมัน โดยคาดว่ารถรุ่นนี้จะให้ความประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 29 ไมล์ต่อแกลลอนในเมือง 38 ไมล์ต่อแกลลอนบนทางหลวง และ 33 ไมล์ต่อแกลลอนโดยรวม โดยมีแนวโน้มว่าจะต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้าสตาร์ทที่ 30 ไมล์ต่อแกลลอนในเมือง 40 ไมล์ต่อแกลลอนบนทางหลวง และ 34 ไมล์ต่อแกลลอนโดยรวม

ในด้านขนาดของรถ Nissan Sentra ใหม่มีความยาว 183.3 นิ้ว ยาวขึ้นเล็กน้อยจากรุ่นเดิมที่มีความยาว 182.9 นิ้ว แต่ระยะฐานล้อกลับสั้นลง 0.10 นิ้ว อยู่ที่ 106.5 นิ้ว ส่วนความกว้างยังคงอยู่ที่ 71.5 นิ้ว แต่ความสูงจะเพิ่มขึ้น 0.2 นิ้ว ขณะที่ตัวรถจะอยู่ใกล้พื้นถนนมากขึ้นที่ระดับต่ำลง 0.10 นิ้ว นับว่าเป็นการปรับเปลี่ยนที่เพิ่มรูปลักษณ์ให้ดูสมาร์ทและทันสมัยลงตัวมากยิ่งขึ้น

Nissan ได้ทำการออกแบบภายนอกของ Sentra ใหม่ด้วยแนวคิด V-motion ที่ทันสมัย และติดตั้งไฟหน้าที่มีความบาง ซึ่งมีการพัฒนาความอากาศพลศาสตร์เพื่อให้เสริมประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบล้อที่มีขนาดเล็ก การติดตั้งกระจกด้านข้างเพื่อลดแรงต้านทาน หรือแม้กระทั่งการปิดพื้นเรียบใต้รถที่ส่งผลในเรื่องการประหยัดน้ำมัน

Nissan จะจัดจำหน่าย Sentra ใน 4 รุ่น ได้แก่ S, SV, SL, และ SR ซึ่งแตกต่างจากรุ่นปี 2025 ที่มีแค่ 3 รุ่นนอกจากนี้รถยนต์ยังมีกลุ่มล้อให้เลือกถึง 16, 17 และ 18 นิ้ว ทำให้ผู้ขับขี่มีทางเลือกมากขึ้นตามความต้องการ

ภายในของ Sentra รุ่นใหม่ จะมาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบมีสาย รวมถึงหน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 7.0 นิ้ว ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมในการแสดงผล ผู้ใช้จำเป็นต้องอัปเกรดเป็น SV, SR หรือ SL รุ่นที่สูงกว่า นอกจากนี้ รุ่น SL จะได้รับการติดตั้งฟีเจอร์หลากหลาย เช่น พวงมาลัยที่มีระบบทำความร้อน, ระบบไฟส่องสว่างที่ปรับอัตโนมัติ, กระจกมองหลังที่มืดอัตโนมัติ, หลังคาซันรูฟ, ล้อขนาด 17 นิ้ว และเบาะหนังสังเคราะห์ที่มีลักษณะการเย็บแบบนุ่มนวลที่เพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสาร

รุ่น SR จะมีการออกแบบเฉพาะตัวในหน้ากระจังหน้าที่ใช้โครเมียมสีเข้ม และเพิ่มความโดดเด่นด้วยกันชนหลังที่ออกแบบมาเฉพาะ รวมถึงขอบข้างสีดำ สปอยเลอร์หลัง และหลังคาสีสองโทน เพื่อสื่อความซิ่งและสปอร์ตมากยิ่งขึ้น รุ่น SV, SR และ SL จะมาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น โดยมีโหมดสปอร์ตที่จะทำให้มีการตอบสนองที่เฉียบคมขึ้นในการขับขี่

Nissan เปิดเผยว่า Sentra ใหม่จะเริ่มเดินทางไปยังโชว์รูมในปีนี้ ถึงแม้จะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับราคา แต่คาดว่ารุ่นพื้นฐานของ Sentra 2026 จะอยู่ในช่วงราคาต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งสำหรับ Sentra รุ่นปี 2025 เริ่มต้นอยู่ที่ 22,785 ดอลลาร์ รวมค่าใช้จ่ายในการขนส่ง 1,195 ดอลลาร์ เป็นที่น่าสนใจว่า Sentra รุ่นใหม่จะสามารถสร้างความน่าสนใจให้กับผู้บริโภคได้มากน้อยเพียงใด ในขณะที่ตลาดรถยนต์ประหยัดราคาเริ่มมีการแข่งขันสูงขึ้น

สำหรับผู้ที่กำลังมองหา *วิเคราะห์ Sentra** ใหม่ การปรับปรุงใหม่ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและน่าสนใจอย่างยิ่ง คาดว่า Sentra รุ่นนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับ Nissan ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากมีการประชาสัมพันธ์ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ต้องการรถยนต์ที่มีความสะดวกสบายและใช้งานง่าย

ด้วยความคาดหวังสูงในประสิทธิภาพและรายละเอียดหลังการเปิดตัว คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Sentra รุ่น 2026 จะประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้าได้มากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับการแข่งขันในตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน

เว็บไซต์ ZumRoad ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว